เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันศุกร์(23ก.พ.) ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับบุคลิกภาพของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธนายหนึ่ง ซึ่งไม่ยอมเข้าแทรกแซงระหว่างเกิดเหตุกราดยิงภายในโรงเรียนมัธยมฟลอริดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวอาจตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกหรือไม่ก็เป็นคนขี้ขลาด
"เขาผ่านการฝึกฝนมา เขาไม่ได้ตอบสนองอย่างเหมาะสมภายใต้ความกดดัน หรือไม่เขาก็ขี้ขลาด" ทรัมป์ กล่าว พร้อมเอ่ยชื่อเจ้าหน้าที่คุ้มกันโรงเรียนรายดังกล่าว คือนายสกอต ปีเตอร์สัน "เมื่อถึงเวลาที่ต้องอยู่ในนั้นและลงมือทำบางอย่าง เขากลับไม่มีความกล้าหาญหรือลงมือทำอะไรสักอย่างเลย แน่นอนเขาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดแย่ ไม่มีคำถามในเรื่องนี้"
นายอำเภอโบรวาร์ด เคาน์ตี เผยเมื่อวันพฤหัสบดี(22ก.พ.) ว่า ปีเตอร์สัน อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุระหว่างคนร้ายอาละวาดกราดยิงนองเลือดในวันวาเลนไทน์ คร่าชีวิตนักเรียน 14 ศพและครู 3 รายในโรงเรียนมัธยมมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาสในเมืองปาร์คแลนด์ แต่ก็ไม่ดำเนินการใดๆเพื่อหยุดยั้งมัน
เวลานี้ ปีเตอร์สัน ลาออกแล้ว หลังจากถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
ทรัมป์บ่งชี้ว่าเขากำลังชั่งใจต่อข้อเรียกร้องให้กระชับกฎระเบียบเกี่ยวกับอาวุธปืนให้เข้มข้นขึ้นตามหลังเหตุกราดยิงในปาร์คแลนด์ ซึ่งในเหตุการณ์นี้นักเรียนเก่าวัย 19 ปี ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติลงมือสังหารผู้คนไม่เลือกหน้า อย่างไรก็ตามเขาหยิบยกประเด็นถกเถียงขึ้นมา ด้วยการเสนอติดอาวุธแก่พวกครู โดยเชื่อว่าสามารถลดการสูญเสียได้หากมีการกราดยิงในโรงเรียนอีก
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าววันพุธ (21 ก.พ.) ระหว่างการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่ฟลอริดาเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว และพ่อแม่ของเด็กที่เสียชีวิตรวมทั้งหมดราว 40 คน โดยเสนอว่า ครูและเจ้าหน้าที่ 20% ในโรงเรียนควรได้รับการฝึกให้ใช้และพกอาวุธแบบลับๆ เพื่อป้องกันการสังหารหมู่และทำให้การโจมตีจบลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยรักษาชีวิตได้มากขึ้น พร้อมยืนยันว่า การที่สถานศึกษาเป็นเขตปลอดอาวุธกลับเป็นการเชิญชวนให้พวกบ้าคลั่งที่ขี้ขลาดเข้าไปโจมตี
ข้อเสนอแนะของประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ที่สนับสนุนสิทธิในการครอบครองอาวุธและได้รับการรับรองจากสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ (เอ็นอาร์เอ) ระหว่างหาเสียงในปี 2016 นั้น เป็นการสนับสนุนแนวคิดของเอ็นอาร์เอ ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ทรงอิทธิพลมากในอเมริกาที่คัดค้านเสียงแข็งเรื่องควบคุมอาวุธปืน แต่กลับเสนอแนะให้เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและครูที่ติดอาวุธในโรงเรียน นับแต่เกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมในแซนดี้ฮุก รัฐคอนเน็กติกัตเมื่อปี 2012 ที่มีเด็กเสียชีวิต 20 คน และครูอีก 6 คน
สภาคองเกรสสหรัฐฯติดหล่มในข้อถกเถียงเกี่ยวกับอาวุธปืนมาช้านาน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้เลย แม้เกิดเหตุกราดยิงนองเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า และผลสำรวจความคิดเห็นของอเมริกันชนก็พบว่าพวกเขาสนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มข้นขึ้นราวๆ 2 ต่อ 1