รอยเตอร์ - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชี้ทารกเพศหญิงในอินเดียมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตภายใน 1 เดือนหลังคลอดมากกว่าเพศชาย เหตุพ่อแม่อินเดียมักละเลยอาการป่วยของลูกสาว
รายงานของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ที่เผยแพร่วานนี้ (20 ก.พ.) ระบุว่า เด็กทารกในอินเดียเสียชีวิตหลังคลอดราวๆ 600,000 คนต่อปี หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของอัตราการเสียชีวิตของเด็กทารกทั่วโลก
UNICEF อ้างข้อมูลจากรัฐบาลอินเดียซึ่งระบุว่า ทารกเพศหญิงมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าเพศชาย รวมถึงในกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีซึ่งมีอัตราการตายลดลงเกือบ 65% ในช่วงระหว่างปี 1990-2015
“เด็กผู้หญิงได้เปรียบตรงที่มีความแข็งแรงมากกว่าโดยพันธุกรรม แต่ก็น่าเสียดายที่พวกเธอกลายเป็นกลุ่มเปราะบางในทางสังคม” ยัสมิน อาลี ฮาเก ผู้แทน UNICEF ประจำอินเดียให้สัมภาษณ์ผ่านอีเมล
“การเหยียดเพศเริ่มขึ้นตั้งแต่พวกเธอยังไม่เกิดด้วยซ้ำ”
รัฐบาลอินเดียให้บริการดูแลสุขภาพฟรีสำหรับทารกแรกคลอดในโรงพยาบาลของรัฐกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ แต่เด็กที่พ่อแม่พามารักษาเกือบ 60% เป็นเด็กผู้ชาย ตามข้อมูลที่ UNICEF รวบรวมในปี 2017
“มันชี้ให้เห็นถึงกำแพงทางสังคมที่เด็กผู้หญิงต้องเผชิญ พวกเธอถูกมองว่ามีคุณค่าน้อยกว่า” กากัน คุปตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของ UNICEF ระบุ
คุปตะ อธิบายด้วยว่า เหตุที่พ่อแม่มักไม่พาลูกสาวไปหาหมอก็เพราะไม่อยากหยุดงานซึ่งจะทำให้เสียรายได้ และไม่อยากเสียค่าเดินทางไปโรงพยาบาล
ครอบครัวชาวอินเดียส่วนใหญ่นิยมการมีลูกชาย เนื่องจากบรรทัดฐานทางสังคมที่ห้ามสตรีรับมรดกหรือทำพิธีกรรมทางศาสนาบางอย่าง แม้การกีดกันเช่นนี้จะผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ตาม
คนอินเดียมองว่าลูกสาวเป็นภาระ เพราะต้องเป็นฝ่ายจ่ายสินสอดให้แก่ผู้ชายเมื่อจะแต่งงาน
ค่านิยมการมีลูกชายยังกระตุ้นให้เกิดการทำแท้งเพื่อเลือกเพศบุตร ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สมดุลทางประชากร มีการประเมินเชิงสถิติว่าอินเดียกำลังขาดแคลนผู้หญิงมากถึง 63 ล้านคน
รัฐบาลอินเดียพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการรณรงค์ให้สังคมหันมาปกป้องและให้การศึกษาแก่เด็กผู้หญิง อีกทั้งยังจ่ายสวัสดิการพิเศษให้แก่พ่อแม่ที่มีลูกสาว
อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมองว่า แคมเปญเหล่านี้ยังไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
“เรายังคงเห็นเด็กผู้ชายถูกพามาที่ศูนย์รักษาภาวะทุพโภชนาการมากกว่าเด็กผู้หญิง” นเรนทรา คุปตะ ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพจากรัฐราชาสถานซึ่งมีทารกหญิงเสียชีวิตมากเป็นพิเศษ ระบุ
“คุณจะเห็นได้ว่า เด็กผู้หญิงที่นี่ขาดแคลนอาหารมากกว่าเด็กชาย... นั่นเป็นเพราะว่าสังคมยังนิยมการมีลูกผู้ชายมากกว่าผู้หญิง”