“ทรัมป์” เตรียมออก กม.แบน “บัมป์สต๊อก” หลังเหตุกราดยิง ร.ร.ฟลอริดา

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศวานนี้ (20 ก.พ.) ว่ารัฐบาลจะดำเนินการออกกฎหมายห้ามใช้อุปกรณ์เสริมบัมป์สต๊อก (bump stock) ที่ช่วยให้ปืนไรเฟิลสามารถยิงกระสุนได้เป็นร้อยๆ นัดต่อนาทีคล้ายปืนกล หลังเหตุกราดยิงโรงเรียนมัธยมที่รัฐฟลอริดา จุดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

คำสั่งคุมเข้มอาวุธปืนจะถือเป็นการพลิกจุดยืนครั้งใหญ่ของ ทรัมป์ ซึ่งชูนโยบายปกป้องสิทธิของชาวอเมริกันในการครอบครองปืนมาตั้งแต่ช่วงหาเสียง

ทรัมป์ สั่งให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำร่างกฎหมายที่กำหนดให้บัมป์สต๊อกมีสถานะเทียบเท่า “ปืนกล” ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสหรัฐฯ

“ผมหวังว่ากฎระเบียบสำคัญนี้จะเสร็จเรียบร้อยในไม่ช้า... เราต้องไม่เพียงทำในสิ่งที่รู้สึกว่าแตกต่าง แต่ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง” ทรัมป์ กล่าวในงานกิจกรรมที่ทำเนียบขาว

นิโคลัส ครูซ วัย 19 ปี ได้ก่อเหตุกราดยิงโรงเรียน มาร์จอรี สโคนแมน ดักลาส ในเมืองปาร์กแลนด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. จนมีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย และเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้วก็เหตุกราดยิงคอนเสิร์ตที่นครลาสเวกัส โดยคนร้ายได้ใช้ปืนไรเฟิลติดบัมป์สต๊อก สาดกระสุนคร่าชีวิตผู้ชมคอนเสิร์ตกลางแจ้งไปถึง 58 ศพ

โศกนาฏกรรมจากอาวุธปืนที่เกิดอย่างต่อเนื่องบีบให้รัฐบาลทรัมป์ต้องเผชิญหน้ากับสมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (National Rifle Association - NRA) ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบี้ยิสต์ที่พยายามล้มกฎหมายควบคุมบัมป์สต๊อกมาโดยตลอด และนั่นอาจทำให้ ทรัมป์ ต้องตัดสินใจใช้คำสั่งบริหารเพื่อข้ามขั้นตอนการขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรส

ถ้อยแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้นไม่นาน หลังจากที่ ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ออกมาระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ปฏิเสธทางเลือกอื่นๆ เช่น การเพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้ที่สามารถซื้อปืนไรเฟิลได้ หรือการสั่งแบนปืนไรเฟิลโจมตีแบบ AR-15 ซึ่งถูกนำมาใช้สังหารหมู่แล้วหลายครั้ง รวมถึงเหตุกราดยิงล่าสุดที่รัฐฟลอริดาซึ่งทางการพบว่า ครูซ ใช้ปืน AR-15 ที่ซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย

กฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กำหนดว่าบุคคลที่จะซื้อปืนสั้นหรือปืนพก (handgun) จากห้างค้าปืนที่จดทะเบียนถูกต้องต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ส่วนปืนไรเฟิลและปืนลูกซองกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อไว้เพียง 18 ปี

NRA ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแบนอุปกรณ์บัมป์สต๊อกของทรัมป์ โดยขอดูรายละเอียดของร่างกฎหมายเสียก่อน

“มีตัวอย่างมาแล้วหลายกรณีที่การแบนปืนกึ่งอัตโนมัติและอุปกรณ์เสริมไม่ได้ช่วยป้องกันอาชญากรรม และมีผลเพียงแค่ห้ามไม่ให้คนที่เคารพกฎหมายอยู่แล้วไปก่ออาชญากรรมต่อผู้อื่นเท่านั้น” เจนนิเฟอร์ เบเกอร์ โฆษกหญิงของ NRA ระบุ

ไดแอนน์ เฟนสไตน์ ส.ว.เดโมแครต เตือนว่าคำสั่งของ ทรัมป์ อาจทำให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อเป็นปีๆ ตราบใดที่ร่างกฎหมายแบนบัมป์สต๊อกยังไม่ได้ผ่านสภาคองเกรสโดยตรง