เอเอฟพี – เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ในดาเกสถาน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตสหพันธ์คอเคซัสเหนือของรัสเซียเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 5 ราย ขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มือปืนไม่ทราบชื่อได้สาดกระสุนเข้าใส่ผู้คนภายในโบสถ์เมืองคิซล์ยาร์ (Kizlyar) ซึ่งเป็นย่านที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่หนาแน่น
ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยประจำภูมิภาคดังกล่าวระบุว่า ผู้หญิง 4 คนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายซึ่งใช้ปืนไรเฟิลล่าสัตว์ในการก่อเหตุ “ถูกกำจัดแล้ว”
ซาลินา มูรตาซาลิเอวา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข บอกกับสำนักข่าว TASS ว่า หญิงรายที่ 5 ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และยังมีตำรวจรัสเซียอีก 2 นายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์อ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งยืนยันว่า มือปืนเป็นคนในพื้นที่ อายุราว 20 ต้นๆ
บาทหลวง พาเวล ซึ่งอยู่ที่โบสถ์ดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ RBK ว่า “เราเพิ่งจะทำพิธีสวดมิสซาจบ และกำลังทยอยเดินออกจากโบสถ์ จู่ๆ ก็มีชายไว้เคราวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนว่า ‘อัลลอฮุอักบาร์’ และฆ่าคนไป 4 คน”
“เขามีทั้งปืนไรเฟิลและมีดอีก 1 เล่ม”
กลุ่มไอเอสได้แถลงผ่านแอพส่งข้อความ Telegram ว่า “ทหารของอิสลาม คอลีล ดาเกสตานี ได้ลงมือโจมตี” โบสถ์ในเมืองคิซล์ยาร์ “เขาใช้ปืนสังหารคนเหล่านั้นไปได้ 5 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน”
อัครบิดรคีริลล์ ประมุขแห่งคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ได้กล่าวประณามเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ว่าเป็น “อาชญากรรมที่ชั่วช้า” และมีเจตนา “ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างชาวคริสต์ออร์โธดอกซ์กับมุสลิม” ในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ
สื่อท้องถิ่นเผยภาพศพชายไว้เคราสวมชุดพรางทหาร ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคนร้าย และข้างๆ ตัวเขายังมีร่างเหยื่ออีก 2 รายที่ถูกคลุมผ้าขาวไว้
ดาเกสถานซึ่งมีพรมแดนติดกับเชชเนียเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ยากจนและขาดเสถียรภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย และนักรบอิสลามิสต์หัวรุนแรงจากที่นี่หลายคนได้เดินทางไปสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอเอสในซีเรีย
ไอเอสประกาศเมื่อปี 2015 ว่าได้ขยาย “แฟรนไชส์” เข้าไปยังภูมิภาคคอเคซัสเหนือแล้ว และได้อ้างผลงานกราดยิงหรือวางระเบิดโจมตีตำรวจในดาเกสถานหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เหตุกราดยิงโบสถ์ในดาเกสถานเกิดขึ้นเพียง 1 เดือน ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 18 มี.ค. โดยเป็นที่คาดหมายว่าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน จะครองที่นั่งต่อเป็นสมัยที่ 4