xs
xsm
sm
md
lg

เพนตากอนยืนกรานสอบสวนต่อไป พวกพยายามเข้าโจมตีทหารสหรัฐฯในซีเรีย เป็นนักรบรับจ้างชาวรัสเซียใช่ไหม?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2018 ที่บริเวณใกล้ๆ เมืองมานบิจ ทางภาคเหนือของซีเรีย แสดงให้เห็น พลตรี เจมี จาร์ราร์ด แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ (ซ้าย) จับมือแสดงความขอบคุณ มูฮัมเหม็ด อบู อาดีล ผู้นำคนหนึ่งของกองกำลังกบฏซีเรีย SDF ที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่  ทั้งนี้ตามรายงานข่าวในเวลาต่อมาระบุว่า ในวันนั้นฝ่ายอเมริกันได้โจมตีถล่มกองกำลังนิยมรัฐบาลซีเรีย ซึ่งพยายามเข้าตีที่มั่นของกองทหารสหรัฐฯและกองกำลังเอสดีเอฟ  ทำให้กองกำลังเหล่านี้เสียหายหนัก และปรากฏว่าในหมู่ผู้เสียชีวิตมีหลายคนเป็นพลเมืองรัสเซียที่เป็นนักรบรับจ้าง </i>
รอยเตอร์/เอเอฟพี – รัฐมนตรีกลาโหม จิม แมตทิส ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นในวันเสาร์ (17 ก.พ.) ที่จะทำการสอบสวนเหตุการณ์โจมตีในซีเรียเมื่อวันที่ 7 เดือนนี้ ต่อกองทหารอเมริกันและกองกำลังกบฎซีเรียที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ ทั้งนี้เขาแสดงการรับรู้รายงานข่าวที่บอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพลเรือนชาวรัสเซียที่เป็นทหารรับจ้าง แต่ก็หยุดเพียงเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นกล่าวหามอสโกว่าเป็นผู้ประสานวางแผนการโจมตีครั้งนั้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเอาไว้เมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีชายประมาณ 300 คนได้ถูกสังหารหรือได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในซีเรีย ขณะที่พวกเขากำลังทำงานอยู่กับบริษัททหารรับจ้างรัสเซีย โดยที่บริษัทดังกล่าวซึ่งมีสื่อบางแห่งระบุว่าชื่อ “วากเนอร์” มีความเกี่ยวข้องโยงใยกับวังเครมลิน

ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง สหรัฐฯก็ได้ประมาณการว่า มีกองกำลังฝักใฝ่รัฐบาลซีเรียจำนวนราว 100 คนถูกสังหาร จากการที่สหรัฐฯทำการโจมตีขนานใหญ่เพื่อขับไล่ปราบปรามกลุ่มคนเหล่านี้ ขณะพยายามเข้าโจมตีกองทหารอเมริกันและกองกำลังที่วอชิงตันหนุนหลังอยู่ซึ่งมีชื่อเรียกขานว่า “กองกำลังฝ่ายประชาธิปไตยชาวซีเรีย” (Syrian Democratic Forces หรือ SDF) เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ในจังหวัดเดอีร์ เอซซอร์ ทางภาคตะวันออกของซีเรีย

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของรัสเซียหลายรายได้แจ้งกับสหรัฐฯในระหว่างเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่ามอสโกไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย โดยที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ก็ใช้ท่าทีไม่แสดงความเห็นใดๆ เรื่อยมาในเรื่องที่ว่ากองกำลังโปรรัฐบาลซีเรียที่พยายามเข้าตีฝ่ายอเมริกันในวันนั้นเป็นพวกไหนแน่ๆ และในตอนนี้แมตทิสยังคงแสดงอาการงุนงงไม่กระจ่าง ในการอธิบายแก่ผู้สื่อข่าวภายหลังเหตุการณ์ผ่านมาได้ 10 วันแล้ว

“ผมยังคงไม่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมใดๆ แก่พวกคุณ ในเรื่องที่ว่าพวกนั้นเค้าจะทำเรื่องนี้ด้วยเหตุผลอะไร แต่พวกเขาต้องได้รับการชี้นำสั่งการจากใครบางคนแน่ๆ” แมตทิศกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวซึ่งกำลังบินกลับกรุงวอชิงตันพร้อมกับเขา หลังการเดินทางไปเยือนยุโรป ทั้งนี้ตามเอกสารถอดคำให้สัมภาษณ์ของเพนตากอน

“มันเป็นการชี้นำสั่งการในระดับท้องถิ่นใช่ไหม มันมาจากแหล่งที่มาซึ่งอยู่ภายนอกใช่หรือเปล่า อย่ามาถามผมเลยครับ ผมไม่ทราบ”
<i>จิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ในภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 7 ก.พ. 2018 </i>
แมตทิสบอกว่า เขา “เข้าใจดี” ว่ามอสโกได้ยอมรับแล้วว่ามีพวกรับจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายแจกแจงว่าความเข้าใจนี้มาจากการอ่านรายงานข่าวทางสื่อหรือเปล่า โดยที่พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พลเรือนชาวรัสเซียจำนวน 5 คนอาจจะถูกสังหารในการปะทะกับพวกกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ

กระนั้น พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียยังคงปฏิเสธไม่ยอมรับว่าพวกเขาได้นำเอานักรบทำสัญญารับจ้างภาคเอกชนเข้าปฏิบัติการในซีเรีย โดยกล่าวว่าการปรากฏตัวทางทหารของมอสโกในซีเรียนั้นมีเพียงการดำเนินการโจมตีทางอากาศ, มีฐานทัพเรือ 1 แห่ง, มีครูฝึกทหารกำลังให้การอบรมกองกำลังต่างๆ ของชาวซีเรีย, และทหารหน่วยรบพิเศษจำนวนจำกัดจำนวนหนึ่ง

ถึงแม้ตามรายงานข่าวของรอยเตอร์ซึ่งอ้างอิงผู้คนที่มีความคุ้นเคยกับการว่าจ้างเช่นนี้ระบุว่า รัสเซียกำลังใช้พวกทำสัญญารับจ้างเป็นจำนวนที่มากทีเดียวในซีเรีย เนื่องจากการทำเช่นนี้จะทำให้มอสโกมีกองกำลังในภาคพื้นดินเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงนำเอาทหารหน่วยปกติเข้าไป เนื่องจากถ้าทหารเกิดการเสียชีวิต ก็จะต้องมีการแสดงความรับผิดชอบต่างๆ ติดตามมา

ผู้คนที่คุ้นเคยกับการว่าจ้างเช่นนี้กล่าวต่อไปว่า พวกที่ทำสัญญารับจ้างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นอดีตทหาร และปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพรัสเซีย พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นพลเมืองรัสเซีย ถึงแม้มีบ้างบางคนถือพาสปอร์ตของยูเครนและของเซอร์เบีย
<i>ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 12 ธ.ค. 2017 ขณะประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวปราศรัยกับกองทหารรัสเซียซึ่งประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศเฮไมมีม ในซีเรีย </i>
ขณะที่สหรัฐฯกับรัสเซียต่างฝ่ายต่างหนุนหลังพวกที่สู้รบเป็นปรปักษ์กันอยู่ในสงครามความขัดแย้งซีเรีย แต่ก็มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะสร้างความมั่นใจขึ้นมาว่ากองกำลังของพวกเขาเองจะไม่เกิดปะทะต่อสู้กันโดยบังเอิญ กระนั้นจากการที่มีนักรบทำสัญญาจ้างชาวรัสเซียปรากฏตัวขึ้นมาเช่นนี้ จึงเป็นการเพิ่มส่วนประกอบที่ไม่อาจคาดการณ์ได้อีกตัวหนึ่ง

กองทัพสหรัฐฯได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า ในการขับไล่ปราบปรามพวกที่เข้าโจมตีเมื่อวันที่ 7 ก.พ. กองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐฯได้ขอให้กำลังทางอากาศเข้าถล่มโจมตีอยู่เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยที่มีการใช้ทั้ง เครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 อี, โดรน เอ็มคิว-9, เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52, กันชิป เอซี-130, และเฮลิคอปเตอร์ เอเอช-64 อาปาเช่

กองทัพสหรัฐฯระบุด้วยว่า กองกำลังที่พยายามเข้ามาโจมตีนี้ มีการผูกพันธมิตรกับกองกำลังรัฐบาลซีเรีย และได้รับการสนับสนุนด้วยปืนใหญ่, รถถัง, ระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง, และปืนครก

“ผมสงสัยว่าเป็นไปได้หรือที่ผู้คนทั้งหมด 257 คน จะเกิดตัดสินใจด้วยตัวพวกเขาเอง และจู่ๆ ก็ข้ามแม่น้ำเข้ามายังดินแดนของข้าศึก และเริ่มต้นระดมยิงใส่ที่มั่นแห่งหนึ่ง และเคลื่อนขบวนรถถังเข้าโจมตีที่มั่นแห่งนั้น” แมตทิสกล่าว

“ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เราก็จะพยายามสร้างความกระจ่าง แน่นอนทีเดียวว่าเราจะทำงานกับใครก็ตามที่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ แต่ว่าในตอนนี้ เรายังคงไม่ได้คำตอบ”


กำลังโหลดความคิดเห็น