เอเจนซีส์ - มหาเศรษฐีอัญมณีชาวอินเดียกำลังถูกตามล่าหาตัวไปทั่วโลก หลังจากถูกกล่าวหาว่าโกงเงินธนาคารแห่งชาติของรัฐปัญจาบ (PNB) ไปเกือบ 1.8 พันล้านดอลลาร์
นิราฟ โมดี มหาเศรษฐีอัญมณีรุ่นที่สาม ถูกกล่าวหาว่าสมคบกับลูกจ้างของธนาคาร ทำการเอาเงินกู้ก้อนโตแบบไม่มีหลักประกันไปตลอดช่วงเวลา 7 ปี จากข้อมูลในเอกสารฟ้องร้องของธนาคาร PNB
เงินกู้เหล่านี้มียอดรวมกันสูงเกือบ 1 ใน 3 ของมูลค่าทางการตลาดของธนาคารดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นของธนาคารร่วงลงมาอย่างหนักในสัปดาห์นี้ ยอดเงินกู้บางส่วนถูกใช้นำไปจ่ายหนี้ให้เจ้าหนี้รายอื่น ทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจธนาคารอินเดีย
โมดี หนึ่งในชายที่รวยสุดของอินเดีย ถูกประเมินว่าได้เงินก้อนโตประมาณ 1.73 พันล้านดอลลาร์ และออกจากอินเดียไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ส่วนภรรยา พี่น้องและลุง ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็มีรายงานว่าพากันออกจากประเทศในสัปดาห์เดียวกัน ขณะที่ทางการอินเดียได้สั่งยกเลิกพาสปอร์ตของโมดี
ตำรวจสากลอินเตอร์โปลได้แจ้งข่าวเรื่องนี้ในวันศุกร์ โดยระบุว่ากำลังหาข้อมูลเรื่องที่อยู่ของเขา ขณะที่สถานีโทรทัศน์ในอินเดียรายงานในวันศุกร์ว่า โมดีและภรรยาอาศัยอยู่ในเพนเฮาส์ที่สามารถมองเห็นเซ็นทรัลปาร์คในนิวยอร์ก
ข่าวอื้อฉาวเรื่องนี้สร้างความปั่นป่วนทางการเมืองเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีภาพถ่่ายที่แสดงให้เห็นว่าโมดีนั่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ที่เป็นกลุ่มตัวแทนประเทศที่เข้าร่วมการประชุม เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ที่ดาวอส แต่ทั้งคู่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันแต่อย่างใด
ตอนถูกถ่ายรูปที่ดาวอส หลังจากนั้นไม่นาน สำนักงานสอบสวนกลางของอินเดียก็ได้ลงบันทึกคดีความแรกของมหาเศรษฐีอัญมณีรายนี้ โดยในตอนแรกกล่าวหาว่าการโกงเงินมีตัวเลขอยกู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์ แต่ต่อมามีการปรับตัวเลขใหม่ โดยประเมินว่ามากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์
ทางการอินเดียระบุว่า โมดีไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในคณะผู้แทนของนายกรัฐมนตรีเพื่อร่วมงานประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เขาไปดาวอสด้วยตัวเอง แล้วร่วมถ่ายรูปกับนักธุรกิจอินเดีย โดยที่ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับรัฐบาล
เมื่อวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่ได้บุกตรวจค้นสถานที่ 17 แห่ง ที่เชื่อมโยงกับครอบครัวผู้ต้องหา ซึ่งรวมถึงโชว์รูมอัญมณีหลายแห่งในมุมไบและเดลี ทางสรรพากรอ้างว่าได้ยึดทรัพย์สินที่มีมูลค่าราวครึ่งหนึ่งของเงินที่ถูกกล่าวหาว่าโกงไป
การกู้ยืมครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2011 และมีต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนที่แล้ว ตอนที่บริษัทของโมดีหาเงินทุนก้อนใหม่ แต่ลูกจ้างธนาคารที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมสมคบคิดได้เกษียณออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงเพิ่งเอะใจและได้ตรวจสอบกันว่าเหตุใดจึงมีการปล่อยเงินกู้ออกไปโดยไม่มีหลักประกัน นำไปสู่การสืบสวนและยื่นคำร้องต่อสำนักงานสอบสวนกลางของอินเดีย