เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ฝ่ายค้านเอธิโอเปียออกมาให้ความเห็นวันนี้(16 ก.พ)ว่า การลาออกของนายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์ (Hailemariam Desalegn) เมื่อวันพฤหัสบดี(15 ก.พ) หลังจากถูกกดดันจากการประท้วงครั้งใหญ่ ไม่ได้นำความเปลี่ยนแปลงใดมากนักมาสู่เอธิโอเปีย โดยชี้ไปถึงการที่พรรครัฐบาลผสมที่มีพรรค EPRDF เป็นแกนนำยังคงปกครองประเทศต่อไป
เอเอฟพีรายงานวันนี้(16 ก.พ)ว่า ผู้นำเอธิโอเปีย ไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์ (Hailemariam Desalegn) ต้องยอมลาออกเมื่อวานนี้(15) หลังจากพบกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่ต่อเนื่องมานาน ท่ามกลางวิกฤตภายในรัฐบาลพรรคร่วมที่มีพรรคแนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อการปฏิวัติประชาชน (EPRDF) เป็นแกนนำ
แต่ทว่าการที่พรรค EPRDF และพรรคพันธมิตรนั้นที่ยึดทุกที่นั่งในรัฐสภาเอธิโอเปีย ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างที่ว่านายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม จะยังคงอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ เมเรรา กูดินา(Merera Gudina) แกนนำฝ่ายค้านพรรคพรรคโอโรโม เฟเดอราลิสต์ คองเกรส OFC แสดงความเห็น
“ซึ่งสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องคือการเปลี่ยนแปลงจากฐานราก” เมเรรากล่าวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี และย้ำว่าการลาออกของไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์นั้นมีผลเกี่ยวพันกับนโยบายภายในพรรคเท่านั้น
เอเอฟพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียจะยังคงอยู่ในตำแหน่งจนกระทั่งรัฐสภาและพรรคพันธมิตรรัฐบาล EPRDF จะยืนยันการลาออกจากตำแหน่งของเขาอย่างเป็นทางการ และในเวลานี้ยังไม่ชัดว่า ผู้ที่จะมารับไม้ต่อจากไฮเลมาเรียม จะเข้าใจในความทุกข์ยากของบรรดาผู้ประท้วง หรือจะนำเอธิโอเปียกลับเข้าสู่อำนาจนิยมอีกครั้งเหมือนเมื่อครั้งประเทศแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้เคยถูกปกครองภายใต้ผู้นำก่อนหน้าไฮเลมาเรียม
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานว่า สำหรับตัวนายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์ พบว่าเขาเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2012 และการประกาศยื่นใบลาออกในวันพฤหัสบดี(15) สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งประเทศ
ซึ่งพบว่ามีคนจำนวนหลายร้อยคนต้องเสียชีวิตในความรุนแรงที่เริ่มต้นจากแผนพัฒนาเมืองของกรุงแอดดิสอาบาบา และความไม่สงบได้ลุกลามออกไปในปี 2015 และในปี 2016 หลังจากการประท้วงต่อต้านข้อจำกัดทางการเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชนลุกฮือ
ในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ต่อประชาชน ไฮเลมาเรียม กล่าวว่า “ความไม่สงบและวิกฤตทางการเมืองได้นำมาสู่การสูญเสียชีวิตและการพลัดถิ่นของผู้คนจำนวนมาก” และกล่าวต่อว่า “ซึ่งผมเห็นว่าการยื่นใบลาออกของตัวเองเป็นเสมือนช่องทางที่จะนำไปสู่การปฎิรูปที่จะนำมาสู่สันติภาพและประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้พบว่าหนังสือลาออกนั้นมีคณะกรรมการบริหารพรรคของไฮเลมาเรียมคือ พรรคการเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยแห่งประชาชนเอธิโอเปียใต้รับ เช่นเดียวกับพรรคพันธมิตรรัฐบาลที่ใหญ่กว่าคือพรรค EPRDF สื่อที่มีรัฐบาลเอธิโอเปียสนับสนุนรายงาน
ด้านสถานทูตเอธิโอเปียประจำกรุงลอนดอนได้ออกแถลงการณ์กล่าวว่า จดหมายการลาออกของนายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม ได้ถูกรับไว้แล้ว แต่เขาจะยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้นำต่อไปจนกว่าผู้ที่จะมาแทนที่จะได้รับการแต่งตั้งในการประชุมพรรค EPRDF ครั้งต่อไป สื่ออังกฤษชี้
และในแถลงการณ์ฉบับสั้นของ ไฮเลมาเรียม เจ้าตัวยืนยันว่ายังไม่ได้ตัดสินใจออกจากแวดวงการเมืองเอธิโอเปียไป แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานต่อเพื่อปฎิรูปเอธิโอเปีย “การตัดสินใจของผมคือ ความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปฎิรูป” นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียแถลง อ้างอิงจากสื่อฟานา( Fana) ที่ได้รายงานเสริมว่า นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียระบุว่า เขาได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะแก้ไขวิกฤตในประเทศของเขาเอง และการลาออกครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน