อดีตผบ.ตร.ศาสนาซาอุฯ ชี้ “วาเลนไทน์” เป็นกิจกรรมทางสังคม-ไม่ผิดกม.อิสลาม

เอเอฟพี - นักวิชาการอิสลามแถวหน้าของซาอุดีอาระเบียออกมากล่าวรับรองวันวาเลนไทน์ว่าเป็น “กิจกรรมทางสังคมเชิงบวก” (positive social event) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา สวนกระแสต่อต้านในราชอาณาจักรสายอนุรักษนิยมแห่งนี้ที่มองว่าวาเลนไทน์เป็น “วันต้องห้าม” สำหรับชาวมุสลิม

คำแถลงจาก อะหมัด กอสซิม อัล-ฆอมดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจศาสนาแห่งนครเมกกะ มีขึ้นในขณะที่เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทรงผลักดันการปฏิรูปประเทศให้มีความทันสมัยทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ

“มันเป็นกิจกรรมทางสังคมเชิงบวก และขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วย เพราะมันไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายชารีอะห์" ฆอมดี ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์อัล-อราบิยา

“การส่งคำอวยพรเนื่องในวันหยุดหรือวันสำคัญทางสังคมของชาวตะวันตก รวมถึงการแลกกุหลาบแดงในวันวาเลนไทน์ ถือเป็นการแสดงออกซึ่งน้ำใจ ตราบใดที่คนเหล่านั้นไม่ได้เป็นศัตรูหรือทำสงครามกับชาวมุสลิม”

การที่ผู้นำองค์กรทางศาสนาของซาอุฯ ออกคำแถลงลักษณะนี้แทบจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ หากย้อนหลังกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีก่อนที่ตำรวจศาสนายังใช้อำนาจโดยปราศจากการควบคุมไล่จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนหลักอิสลาม และมีการแบ่งแยกชายหญิงอย่างชัดเจน

ซาอุดีอาระเบียได้ริเริ่มปฏิรูปประเทศหลายด้านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงลดทอนอำนาจของตำรวจศาสนาในการจับกุมผู้กระทำผิด

เจ้าชายโมฮัมเหม็ดซึ่งทรงประกาศจะทำให้ซาอุดีอาระเบียกลับไปสู่แนวทาง “อิสลามสายกลาง” ยังทรงจัดระเบียบรัฐซาอุฯ ครั้งใหญ่ โดยลดบทบาททางการเมืองของพวกนักการศาสนาสายแข็งลง

ร้านขายดอกไม้ตามเมืองใหญ่ๆ เช่น นครเจดดาห์ วางจำหน่ายกุหลาบแดงและของที่ระลึกวันวาเลนไทน์กันอย่างคึกคัก โดยไม่มีตำรวจศาสนาตระเวนตรวจจับเหมือนปีก่อนๆ

การผ่อนคลายกฎระเบียบทางศาสนาที่เข้มงวดแม้จะสร้างความสบายใจให้กับบรรดาหนุ่มสาวซาอุฯ แต่ก็อาจจุดกระแสตอบโต้จากกลุ่มอนุรักษนิยมที่ไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซาอุฯ ได้ลงมือปราบปรามพวกที่แข็งขืน ไม่เว้นแม้แต่นักการศาสนาซึ่งมีผู้ติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์นับล้านๆ คน ซึ่งช่วยให้เสียงคัดค้านการปฏิรูปของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดเงียบลงไปได้มาก