เอเอฟพี – ผู้ตรวจสอบสหประชาชาติเผยเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์มีความสามารถในการปรับตัว (resilient) ค่อนข้างสูง และในบางภูมิภาคถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงยิ่งกว่ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส)
รายงานซึ่งจัดทำโดยคณะผู้ตรวจสอบด้านการคว่ำบาตรของยูเอ็น ระบุว่า อัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ซึ่งมีฐานอยู่ที่เยเมนถือเป็นศูนย์กลางการสื่อสารระหว่างเครือข่ายอัลกออิดะห์ที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก
“สาขาของอัลกออิดะห์ยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงในบางภูมิภาค เช่น โซมาเลียและเยเมน เห็นได้จากเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแผนปฏิบัติการของพวกเขาที่ถูกสกัดเอาไว้ได้” รายงานระบุ
ในแอฟริกาตะวันตกและเอเชียใต้ กลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์มีพิษสงมากพอๆ กับไอเอส “ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถขยายอิทธิพลได้มากนัก”
อย่างไรก็ตาม รัฐสมาชิกยูเอ็นเริ่มเห็นความเป็นไปได้ที่อัลกออิดะห์และไอเอสจะหันมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต่อบางภูมิภาคของโลก
ผู้ตรวจสอบยูเอ็นชี้ว่า ในขณะที่ไอเอสสูญเสียดินแดนที่สถาปนาเป็นรัฐคอลีฟะห์ไปเกือบหมดทั้งในอิรักและซีเรีย แต่อัลกออิดะห์ “ยังมีความสามารถในการปรับตัวสูง” ดังจะเห็นได้จากกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายของอัลกออิดะห์ในซีเรียที่ทั้งเข้มแข็งและมีสมาชิกมากที่สุด และยังใช้การข่มขู่ ความรุนแรง และสิ่งจูงใจอื่นๆ เพื่อดึงนักรบกลุ่มย่อยเข้ามาเป็นพวก
อัล-นุสรา ฟรอนท์ มีฐานกำลังอยู่ในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย ปัจจุบันมีนักรบประมาณ 7,000-11,000 คน ซึ่งหลายพันคนเป็นชาวต่างชาติ
ไอเอสยังคงพยายามแผ่อิทธิพลในลิเบียหลังจากที่สูญเสียเมืองซีราเต (Sirte) โดยได้กำลังหนุนจากพวกนักรบที่เดินทางออกมาจากอิรักและซีเรีย
กลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมซึ่งแผ่อิทธิพลข้ามมาจากตอนเหนือของไนจีเรียก็มีนักรบแฝงตัวอยู่ในลิเบียเช่นกัน และสามารถเคลื่อนย้ายไปปฏิบัติการในประเทศข้างเคียงได้
“รัฐสมาชิกยูเอ็นประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่แกนนำไอเอสในลิเบียจะกระจายตัวออกไปยังพื้นที่ขัดแย้งอื่นๆ ในแอฟริกาตะวันตก หรือภูมิภาคซาเฮล รวมถึงในมาลี” รายงานระบุ