เอเจนซีส์/เอพี/รอยเตอร์ - อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีผู้อื้อฉาว ซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี กลับมาสู่หน้าสื่ออีกครั้ง ล่าสุดวันจันทร์(5 ก.พ) ออกมาให้ความเห็นว่า ผู้อพยพเป็นเสมือน “ระเบิดเวลา” สำหรับสังคมอิตาลี พร้อมแนะให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องสั่งขับ “พวกผู้อพยพที่ไม่ปกติ” หลังวันเลือกตั้ง 4 มี.ค ที่จะถึง
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(5 ก.พ)ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีผู้อื้อฉาว ที่ถูกประกาศห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ ซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี วัย 81 ปี กลับมาพร้อมแผนในมือ อ้างชาวอิตาลีไม่ใช่พวกเหยียดผิว แต่เปิดแผนการเนรเทศผู้อพยพกว่า 600,000 คน ใช้ทันทีหลังชนะเลือกตั้ง
ทั้งนี้พบว่า การให้ความเห็นของแบร์ลุสโกนีเกิดขึ้นหลังจากคดีเขย่าขวัญสุดสัปดาห์ ผู้สนับสนุนการเมืองขวาจัดอิตาลีใช้ปืนกราดยิงผู้อพยพขณะขับรถไปทั่วเมืองมาเซราตา(Macerata) ทางตอนกลางของอิตาลี ที่เชื่อว่ามีแรงจูงใจจากเหตุเหยื่อวัยรุ่นหญิงอิตาลีวัย 18 ปีตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตจากน้ำมือของผู้อพยพจากแอฟริกา
โดยแบร์ลุสโกนีกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น RAI ว่า
“มีความกังวลจำนวนมหาศาลภายในสังคมที่เป็นผลจากการปรากฎตัวของพวกผู้อพยพที่ “ไม่ปกติ” ”ซึ่งอดีตผู้นำอิตาลีได้เรียกกลุ่มผู้อพยพว่า “เป็นเสมือนระเบิดเวลาทางสังคมอย่างแท้จริง ที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา เป็นเพราะคนเหล่านี้อยู่ได้ด้วยความเห็นแก่ตัว และอาชญากรรมเป็นหลัก
และในการให้สัมภาษณ์ สื่อเยอรมันยังชี้ว่า แบร์ลุสโกนียังกล่าวย้ำไปถึงแผนการเนรเทศผู้อพยพ “ที่มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 630,000 รายที่อ้างว่า "คนเหล่านี้เป็นพวกผิดปกติ" โดยเขาชี้ว่า ชาวอิตาลีไม่ใช่พวกเหยียดสีผิว แต่ต้องการทำงานและอยู่อย่างสงบ
เอพีอธิบายว่า อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีผู้อื้อฉาวเชื่อว่า ผู้ลี้ภัยกว่า 600,000 คนที่เดินทางเข้าอิตาลีอย่างผิดกฎหมาย “พร้อมที่จะประกอบอาชญากรรมได้ทุกเมื่อ”
ซึ่งในรายงานของรอยเตอร์วันจันทร์(5) พบว่า การเมืองปีกตรงกันข้ามเจ้าพ่อสื่ออิตาลีต่างชี้ "แบร์ลุสโกนี" ต้องรับผิดชอบต่อการไหลเข้ามาของผู้อพยพจำนวนมากที่เกิดขึ้นไม่กี่ปีมานี้
โดยผู้นำพรรคเดโมแครตอิตาลี PD มัตเตโอ เรนซี (Matteo Renzi)ประกาศว่า “ หากบรรดาผู้อพยพเดินทางเข้าอิตาลีเป็นเพราะใครสังคนต้องการทำสงครามกับลิเบีย และนายกรัฐมนตรีอิตาลีคือ แบร์ลุสโกนี” และเสริมว่า พวกผู้อพยพต้องติดอยู่ในอิตาลีเป็นเพราะข้อตกลงว่าด้วยผู้อพยพของอียูที่แบร์ลุสโกนีลงนามไว้ในปี 2003
ในขณะที่ผู้นำกลุ่มไฟว์สตาร์มูเมนต์(5-Star Movement)ชี้เช่นเดียวกันว่า แบร์ลุสโกนีต้องรับผิดชอบเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า
“เมื่อคุณเริ่มสูญเสียความทรงจำในวัย 81 นั้นถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลสำหรับทั้งประเทศ”
โดย Luigi Di Maio กล่าวต่อว่า “แบร์ลุสโกนีต้องรับผิดชอบต่อระเบิดเวลาทางสังคมซึ่งนั้นคือ การอพยพ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้เป็นเพราะ “ตัวเขา” และ “พวกการเมืองกลางซ้าย”
สื่อเยอรมันรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านมัตเตโอ ซาลวินี(Matteo Salvini) ผู้นำพรรคนอร์ทเทิร์น ลีกส์ ( Northern League ) และยังเป็นพันธมิตรกับพรรคการเมืองของแบร์ลุสโกนี ประกาศว่า “การบุกรุกของผู้อพยพ” นั้นเป็นผลทำให้เกิด “การปะทะทางสังคม”
ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิตาลีคนปัจุบัน เปาโล เจนตีโลนี (Paolo Gentiloni) จากพรรคการเมืองกลางซ้าย พรรคเดโมแครตหรือ พรรค PD ให้สัญญาว่า “อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงไม่สามารถแบ่งแยกพวกเราได้”
DW ชี้ว่า ในทางการเมืองแล้ว พบว่า แบร์ลุสโกนียังถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการเมืองอิตาลี ถึงแม้ว่าเขาจะถูกห้ามลงรับสมัครเลือกตั้งก็ตาม ซึ่งเป็นผลจากคดีเลี่ยงภาษีในปี 2011 อ้างอิงจากสื่อ เดอะวีคของอังกฤษ
แต่พบว่า ทว่ามหาเศรษฐีแบร์ลุสโกนียังคงมีความสำคัญกับพรรค ฟอร์ซา อิตาเลีย(Forza Italia )ของเขาในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรค ซึ่งในผลโพลล่าสุดชี้ว่า กลุ่มการเมืองปีกขวาที่มีพรรคของแบร์ลุสโกนีเป็นแกนนำ ถูกพบว่ามีคะแนนขึ้นนำสำหรับโพลก่อนหน้าการเลือกตั้ง 4 มี.คที่จะถึง
เดอะวีคชี้ต่อว่า การกลับมาเที่ยวนี้ ใครหลายคนอาจจะได้เห็นแบร์ลุสโกนีเป็นมือจัดตั้งรัฐบาลอิตาลีชุดใหม่ หากกลุ่มการเมืองปีกขวาอิตาลีสามารถได้ชัยเสียงข้างมากสำเร็จ
