เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทในวันจันทร์ (5 ก.พ.) ดิ่งเหวต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยดาวโจนส์ทำสถิติร่วงลงวันเดียวหนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนน้ำมันปิดลบแรงและทองคำก็ขยับลง หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ดาวโจนส์ ลดลง 1,1175.21 จุด (4.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,345.75 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 113.19 จุด (4.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,648.94 จุด แนสแดค ลดลง 273.42 จุด (3.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,967.53 จุด
ความเคลื่อนไหวในวันจันทร์ (5 ก.พ.) กับเมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงจากระดับสูงสุดตลอดกาล ที่ได้แรงขับเคลื่อนจากกรณีที่กฎหมายปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) ปรับฐานอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งทะยาน และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใสต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน การพุ่งขึ้นของตัวเลขค่าแรง หรือรายได้ต่อชั่วโมงของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อ ยังกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้ง 30 บริษัทในดาวโจนส์ล้วนปิดเป็นตัวแดง โดยตัวที่ร่วงหนักที่สุดได้แก่ โบอิ้ง, ซิสโก ซินเท็มส์, เอ็กซอนโมบิล, โฮมดีโปต์, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, ไฟเซอร์ ซึ่งทั้งหมดดิ่งลงมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาน้ำมันในวันจันทร์ (12 ก.พ.) ร่วงลงแรงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดทุนทั่วโลก หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากำลังผลิตในอเมริกากำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 96 เซ็นต์ ปิดที่ 67.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากดอลลาร์ที่แข็งค่าแล้ว นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กำลังผลิตของประเทศพุ่งทะลุ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี
ขณะเดียวกัน ในวันศุกร์ (2 ก.พ.) เบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน เผยแพร่ข้อมูลที่ตอกย้ำถึงกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ โดยระบุว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันในอเมริกาเดินเครื่องเพิ่มเติม 2 สัปดาห์ติดต่อกัน อีก 6 แท่นเป็น 765 แท่น บ่งชี้ถึงกิจกรรมการขุดเจาะที่ยังสูงอยู่
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (2 ก.พ.) ปิดลบเล็กน้อยหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับการจ้างงานและค่าจ้าง ก่อความคาดหมายว่าเฟดจะใช้แนวทางปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างห้าวหาญ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 80 เซ็นต์ ปิดที่ 1,336.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
