เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ยืนยันวันนี้ (5 ก.พ.) ว่ารัฐบาลจะเร่งดำเนินการย้ายที่ตั้งฐานทัพอากาศสหรัฐฯ มายังตอนเหนือของเกาะโอกินาวา หลังจากผู้สมัครซึ่งพรรคแอลดีพีให้การสนับสนุนชนะศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในท้องถิ่น
คณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นแถลงว่า ทาเกโยโตะ โทงุจิ เป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองนาโงะ (Nago) ทางตอนเหนือของโอกินาวา ด้วยคะแนน 20,389 เสียง ขณะที่ ซูซุมุ อินามิเนะ นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันได้ไปเพียง 16,931 เสียง และหมดโอกาสรั้งเก้าอี้เป็นสมัยที่ 3
อินามิเนะ ประกาศคัดค้านข้อตกลงระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่จะย้ายฐานทัพอากาศฟูเตนมะจากเขตเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาวามาที่เมืองนาโงะ ซึ่งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือ
ด้าน โทงุจิ นั้นให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมืองนาโงะ แต่ยังไม่แสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องการย้ายฐานทัพฟูเตนมะมาที่เมืองแห่งนี้
สื่อท้องถิ่นระบุว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองนาโงะถือเป็น “สงครามตัวแทน” ระหว่างรัฐบาลอาเบะ กับ ทาเกชิ โอนางะ ผู้ว่าการจังหวัดโอกินาวา ซึ่งคัดค้านแผนการตั้งฐานทัพสหรัฐฯ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู และยังถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดผลการเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะโอกินาวาคนใหม่ที่จะมีขึ้นในปีนี้ด้วย
นายกฯ อาเบะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับชัยชนะของ โทงุจิ ในวันนี้ (5) “ผมรู้สึกยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ และซาบซึ้งที่ชาวเมืองนาโงะตัดสินใจเลือกเขา”
“สำหรับเรื่องฐานทัพ ผมพร้อมที่จะเดินหน้าตามแผน และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่”
ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ทำข้อตกลงในปี 1996 ว่าจะย้ายฐานทัพอากาศฟูเตนมะจากเมืองกิโนวัน (Ginowan) ไปยังเมืองนาโงะ ทว่าแผนดังกล่าวยังไร้ความคืบหน้า เนื่องจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากประชาชนบนเกาะโอกินาวาซึ่งเหนื่อยหน่ายเต็มทนที่ต้องเป็นเจ้าบ้านรับรองทหารอเมริกันส่วนใหญ่จากทั้งหมด 47,000 นายในญี่ปุ่น
กลุ่มผู้คัดค้านต้องการให้สหรัฐฯ ย้ายฐานทัพออกไปให้พ้นจากเกาะโอกินาวาเลยทีเดียว
กระแสต่อต้านฐานทัพอเมริกันยิ่งรุนแรงขึ้นหลังเกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินทหารอยู่เนืองๆ และล่าสุดเฮลิคอปเตอร์อเมริกันก็ต้องลงจอดฉุกเฉินเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ชาวบ้านยังรับไม่ได้กับคดีข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ชนแล้วหนี และอุบัติเหตุซึ่งเกิดจากบุคลากรสหรัฐฯ ที่ชอบเมาแล้วขับ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่รบกวนความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ญี่ปุ่นเรื่อยมา
เกาะโอกินาวาเคยเป็นสมรภูมิรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกสหรัฐฯ ปกครองอยู่นานถึง 27 ปี ปัจจุบันยังคงถูกสหรัฐฯ ใช้เป็นฐานในการออกปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในเอเชีย