ระอุ! รัสเซียอนุมัติประจำการฝูงบินรบบนเกาะพิพาทใกล้ญี่ปุ่น หลังโตเกียวติดตั้งระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ

รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตีดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย อนุมัติฝูงบินรบเข้าประจำการบนเกาะพิพาทใกล้ญี่ปุ่น ยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารในพื้นที่ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับโตเกียวตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดจากประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับระบบขีปนาวุธของสหรัฐฯ

ในกฤษฎีกาที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (1 ก.พ.) เมดเวเดฟ อนุญาตให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียใช้สนามบินพลเรือนสำหรับฝูงบินรบของพวกเขา บนเกาะที่ทางรัสเซียเรียกว่า “อิตุรุป” ส่วนญี่ปุ่นเรียกว่า “เอโตโรฟุ”

ดินแดนดังกล่าวเป็น 1 ใน 4 เกาะที่กองกำลังโซเวียตเข้ายึดครองในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมันตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโด จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ขณะที่ข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะอีกแห่ง ที่รัสเซียเรียกว่า “คูริล” ส่วนญี่ปุ่นเรียกว่า “นอร์ธเทิร์น เทอร์ริทอรี” ก็ยังคงเป็นประเด็นเผ็ดร้อนที่เป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้มอสโกและโตเกียวลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพสิ้นสุดสงครามโลก

คำสั่งของเมดเวเดฟ คือก้าวย่างล่าสุดในการเสริมกำลังทหารของรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้มอสโกได้ประจำการระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธใหม่บางส่วนตามเกาะต่างๆและมีแผนสร้างฐานทัพเรือที่นั่นด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับดินแดนซึ่งเป็นข้อพิพาท

กฤษฎีกานี้ถูกเผยแพร่ออกมาไม่กี่วันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของทั้งสองชาติมีกำหนดหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือบนเกาะพิพาทต่างๆ และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียมีความกังวลต่อกรณีที่ญี่ปุ่นยอมให้วอชิงตันใช้ดินแดนของพวกเขาเป็นฐานสำหรับเสริมกำลังทหารอเมริกา โดยใช้ประเด็นตอบโต้เกาหลีเหนือเป็นข้ออ้าง

ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียจะประจำการเครื่องบินรบบนเกาะดังกล่าวอย่างถาวรเลยหรือไม่ หรือจะใช้สนามบินบนเกาะแห่งนี้เฉพาะยามที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ Kommersant อ้างแหล่งข่าวด้านการทหารที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่าความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยมอบทางเลือกเพิ่มเติมแก่กองทัพรัสเซีย

แหล่งข่าวเดียวกันระบุว่า รัสเซียมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับแผนของญี่ปุ่นที่จะติดตั้งระบบขีปนาวุธ Aegis ของสหรัฐฯเพิ่มเติมในจังหวัดอาคิตะ และจังหวัดยามากาตะ

สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงมอสโกบอกว่าความเคลื่อนไหวของรัสเซียสวนทางกับสิ่งที่โตเกียวพยายามบรรลุเป้าหมาย “เราเชื่อว่าผลลัพธ์ของมันคือการขยายอำนาจทางทหารของรัสเซียบนเกาะทั้ง 4 แห่ง ซึ่งขัดแย้งกับจุดยืนของญี่ปุ่นเกี่ยวกับเกาะเหล่านั้น”

“เราต้องการทางออกที่สามารถแก้ปัญหาเขตแดนได้ด้วยตัวของมันเอง เพื่อจัดการกับรากฐานของปัญหานั้น" สถานทูตญี่ปุ่นกล่าว พร้อมระบุโตเกียวจะยังเดินหน้าเจรจากับรัสเซีย ในความพยายามคลี่คลายข้อพิพาทด้านดินแดนที่ขยายวงกว้างขึ้น”