เอเอฟพี – สหรัฐฯขยายความคุ้มครองพิเศษให้กับชาวซีเรียประมาณ 7,000 คนซึ่งทำให้พวกเขาไม่ถูกส่งกลับประเทศที่ทรุดโทรมจากสงคราม กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุในวันนี้ (1)
คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกความคุ้มครองผู้อพยพหลายแสนคนจากประเทศแถบอเมริกากลาง ก่อให้เกิดความกลัวในหมู่ชาวซีเรียว่า พวกเขาอาจเป็นเป้าหมายต่อไป
“หลังจากพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ อย่างรอบคอบ ผมตัดสินใจว่ามันมีความจำเป็นที่จะต้องขยายสถานะความคุ้มครองชั่วคราวให้กับชาวซีเรีย” คริสต์เจน นีลเซน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าวในถ้อยแถลง
“มันชัดเจนว่า เงื่อนไขต่างๆ สำหรับสำหรับชาวซีเรียจะคงอยู่ต่อไป ดังนั้นการขยายจึงอยู่ภายใต้ตัวบทกฎหมาย” นีลเซน กล่าว
การขยายนี้คงอยู่จนถึงวันที่ 30 กันยายน ปี 2019 และนีลเซนจะทบทวนเงื่อนไขต่างๆ ก่อนถึงวันที่จะตัดสินใจว่ามันควรถูกขยายต่อไปหรือยกเลิก
รัฐบาลสหรัฐฯยกเลิกความคุ้มครองชาวเอลซัลวาดอร์ราว 200,000 คน ชาวเฮติ 59,000 คน และชาวนิการากัว 5,300 คน บางคนอยู่ในสหรัฐฯมานานหลายสิบปี
สงครามกลางเมืองของซีเรียปะทุขึ้นหลังจากกองกำลังประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ดำเนินการกวาดล้างผู้ประท้วงอย่างโหดเหี้ยมในปี 2011 ชักนำหลายประเทศจากทั่วภูมิภาครวมถึงสหรัฐฯ รัสเซีย และประเทศอื่นๆ
ความขัดแย้งรุนแรงนี้คร่าชีวิตคนแล้วกว่า 340,000 คน และทำลายหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานหลายล้านคน