เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ เดินทางมาถึงจีนวันนี้(31 ม.ค)ในกำหนดการเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน เรียกเสียงฮือฮาเมื่อเมย์หลุดปากเตือนให้ปักกิ่งเล่นตามกรอบกติกาสากล รวมไปถึงทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ หากทางปักกิ่งยังคงต้องการหาผลประโยชน์สูงสุดในการทำการค้ากับอังกฤษและชาติตะวันตก
ไฟแนนเชียลไทม์ส สื่อธุรกิจรายงานวันนี้(31 ม.ค)ว่า พบว่ามีความตรึงเครียดเกิดขึ้นก่อนการเยือนจีนอย่างเป็นทางการจำนวน 3 วันของนายกรัฐมนตรีหญิง เทเรซา เมย์ จากการที่ผู้นำอังกฤษยืนกรานต่อต้านแรงกดดันจากปักกิ่งในการที่ต้องการให้อังกฤษประกาศการสนับสนุนโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือโครงการเส้นทางสายไหมใหม่
ซึ่งในหน้าความคิดเห็นของไฟแนนเชียลไทม์ส เมย์กล่าวว่า เธอต้องการที่จะเพิ่มการติดต่อทางการค้ากับจีน แต่ทว่าเธอแสดงท่าทีสงสัยต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ทางสื่อธุรกิจชี้ว่า สิ่งนี้มีมากกว่าอดีตนายกฯอังกฤษคนก่อนหน้า เดวิด คาเมรอน โดยนายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษกล่าวยืนยันว่า “สองประเทศจะไม่ได้มองตาต่อตาเสมอไป” ในทุกปัญหา
นอกจากนี้เมย์ยังเอยไปถึงปัญหาที่สำคัญ เป็นต้นว่า การทุ่มตลาดของจีนในเวทีการค้าโลก โดยกล่าวว่า “อังกฤษจะพิจารณาเพื่อดูสิ่งที่ทางลอนดอนจะสามารถกระทำได้เพื่อต้านต่อการผลิตจนล้นตลาดโลกของบางภาคอุตสาหกรรม เป็นต้นว่า เหล็ก และการละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นต้น”
ทั้งนี้พบว่าเมย์ไม่ได้เดินทางมาจีนตามลำพัง แต่เธอยังได้นำตัวแทนธุรกิจอังกฤษที่แข่งแกร่งถึง 50 คนมาด้วย ซึ่งรวมไปถึง บริษัทน้ำมันบีพี และค่ายรถ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ และบริษัทขนาดเล็ก และมหาวิทยาลัยอังกฤษต่างๆ
โดยเธอชี้ว่า “ต้องการทำให้มั่นใจว่าการพัฒนาและค้นคว้าในผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทอังกฤษ จะต้องได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา”
นอกจากนี้ การให้สัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางไปจีน เมย์ยังชี้ว่า เธอจะยกปัญหาสิทธิมนุษย์ชนในฮ่องกงขึ้นมาเป็นประเด็นในการหารือกับปักกิ่ง และปกป้องข้อตกลง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ต่อฮ่องกงที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมาก่อน
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า ในการเยือนจีนวันแรกของเมย์ เธอได้ประกาศความร่วมมือระหว่าง 2 ชาติ ที่รวมไปถึงขยายโครงการแลกเปลี่ยนครูคณิตศาสตร์ และโครงการโปรโมตการเรียนภาษาอังกฤษในจีนภายใต้โครงการ “ English is Great”
ซึ่งทางเทเรซา เมย์ ประกาศว่าการเยือนปักกิ่งครั้งนี้ของเธอจะยิ่งเป็นการส่งเสริมยุคทองของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยในจุดแรกที่เธอจะไปเยือนคือ เมืองอู่ฮั่น( Wuhan) เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีนักศึกษามากที่สุดกว่าเมืองใดในโลก
นอกจากนี้สื่ออังกฤษชี้ว่า มีการคาดการณ์ว่า เทเรซา เมย์ จะพยายามขยายความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าระหว่าง 2 ชาติที่มีอยู่ออกไปให้มากขึ้น มากกว่าที่จะพยายามหาข้อตกลงทางการค้าใหม่หลัง BREXIT
ซึ่งเมย์ชี้แจงว่า เธอคาดหวังว่า “จีน” จะมีบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก โดยนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า
“และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมดิฉันจึงต้องการกระชับความสัมพันธ์กับจีนให้แนบแน่นในประเด็นทางเศรษฐกิจ และปัญหาสำคัญของโลกที่สำคัญต่อบรรดานักธุรกิจของเรา ต่อการทำธุรกิจของเรา ต่อประชาชนอังกฤษ และต่อในสิ่งที่เรายืนหยัด”
ทั้งนี้สำหรับประเด็นในส่วนของฮ่องกง ที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษจนกระทั่งปี 1997 ซึ่งเป็นปีที่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีน ผู้ว่าการฮ่องกงของอังกฤษคนสุดท้าย ลอร์ด แพทเพิร์น (Lord Patten) ได้ออกมาเรียกร้องให้เมย์ใช้โอกาสนี้แสดงความกังวลต่อปักกิ่งในสถานการณ์ที่เขาชี้ว่า มีความพยายามที่จะลดเสรีภาพและสิทธิในฮ่องกงเพิ่มมากขึ้นในไม่กี่ปีมานี้
