เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกโห่กลางที่ประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ในวันศุกร์(26ม.ค.) หลังพูดโจมตีสื่อมวลชน ย้ำคำพูดของเขาที่เคยกล่าวหาสื่อมวลชนที่วิพากษ์วิจารณ์เขาว่าเป็น "ข่าวปลอม"
"ในฐานะนักธุรกิจ ผมปฏิบัติกับสื่อมวลชนด้วยดีเสมอมา จนกระทั่งผมเข้ามาเป็นนักการเมือง ผมจึงได้ตระหนักถึงความสะอิดสะเอียน ความเลวทรามและความจอมปลอม ที่สื่อสามารถเป็นได้" ทรัมป์กล่าวบนเวทีประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม
ทันใดนั้นคณะผู้แทนบางส่วนจากทั้งหมด 1,500 คนที่แออัดอยู่ในหอประชุมก็ส่งเสียงโห่ประณามคำพูดดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างช่วงถามตอบ ตามหลังคำกล่าวปราศัยที่เป็นมิตรของทรัมป์ต่อโลกธุรกิจ
ตอนที่เดินทางมาถึงศูนย์ประชุมในเมืองตากอากาศของสวิตเซอร์แลนด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าว ปฏิเสธข่าวที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับตัวเขาซึ่งรายงานโดยนิวยอร์กไทมส์ ว่าเป็น "ข่าวปลอม"
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์อ้างแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม 4 คนระบุว่า ทรัมป์ ออกคำสั่งปลด โรเบิร์ต มุลเลอร์ ออกจากตำแหน่งอัยการพิเศษคุมสอบคดีรัสเซียเมื่อที่แล้ว แต่ถูกที่ปรึกษาคนสนิทคัดค้านและขู่จะ “ลาออก” จนต้องยับยั้งคำสั่งไว้
ผู้ประท้วง 2 คน สวมเสื้อยืดสีขาวยืนประท้วงทรัมป์แบบเงียบๆบริเวณล็อบบี้ด้านนอกห้องประชุม "เพิ่งได้ยินเขา ตำหนิข่าวปลอม นี่คือสิ่งที่เขาเป็น" อันยา ชิฟฟริน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นภรรยาของ เจเซฟ สติกลิตซ์ นักเศรษฐศาสตร์คนดังชาวสหรัฐฯ หนึ่งในผู้ประท้วงกล่าว โดยเธอสวมเสื้อยืดสกีนข้อความว่า "ไม่ใช่ประธานาธิบดีของฉัน"
ส่วนผู้ประท้วงอีกคน ชาชา เครเมอร์ สวมเสื้อยืดสกีนข้อความว่า "ยืนหยัดร่วมกับเฮติ" หนึ่งในประเทศที่ตกเป็นเหยื่อคำพูดพล่อยๆของทรัมป์เมื่อเร็วๆนี้
ทั้งนี้ในการกล่าวบรรยายกับที่ประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัมในวันศุกร์(26ม.ค.) ทรัมป์ ได้พูดในหลายประเด็น ในนั้นรวมถึงเสนอ "มิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนของอเมริกา"แก่ชาวโลก ในการเปิดตัวต่อหน้าที่ประชุมสุดยอดเศรษฐกิจโลกครั้งแรกของเขา พร้อมชี้แจงว่านโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ไม่ได้ความว่าอเมริกาจะอยู่เพียงลำพัง"
"โลกกำลังประสบกับการคืนชีพของอเมริกาที่แข็งแกร่งและรุ่งเรือง อเมริกาอ้าแขนรับนักธุรกิจและเรากลับมามีความสามารถในการแข่งขันอีกครั้ง" เขากล่าว พร้อมบอกกับพวกผู้ฟังที่ประกอบด้วยเหล่านักการเมือง พวกผู้นำทางอุตสาหกรรม ภาคเทคโนโลยีและภาคการเงิน ว่าสหรัฐฯภายใต้ขวบปีแรกของเขาในฐานะประธานาธิบดีดึงดูดการลงทุนต่างชาติกว่าที่ผ่านๆมา
อย่างไรก็ตามเขาเตือนว่า "เราไม่อาจมีการค้าแบบเปิดและอิสระหากว่ามีบางประเทศแสวงหาประโยชน์จากระบบที่ก่อความเสียหายแก่ชาติอื่นๆ เราสนับสนุนการค้าเสรี แต่มันจำเป็นต้องยุติธรรมและต่างตอบแทนกัน สหรัฐฯจะไม่หลับตาให้กับแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมอีกต่อไปแล้ว"