รอยเตอร์ - สื่อต่างประเทศอ้างความเห็นนักวิเคราะห์ต่างชาติชี้ การที่ไทยมีแนวโน้มเลื่อนเลือกตั้งออกไปเป็นช่วงต้นปี 2019 เป็นความพยายามซื้อเวลาให้คณะรัฐประหารหาแนวทางอยู่ในอำนาจต่อไป เพราะยังไม่มั่นใจว่าผลเลือกตั้งจะออกมาในทิศทางที่ต้องการหรือไม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยพูดก่อนหน้านี้ว่าศึกเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2018 ขณะที่กำหนดการเลือกตั้งเคยถูกเลื่อนออกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2014
สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งออกไป 3 เดือน เพื่อเปิดทางให้พรรคการเมืองต่างๆมีเวลาเตรียมตัวสำหรับสู้ศึกเลือกตั้ง
ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็น 1 ใน 4 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่จำเป็นสำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในระยะเวลา 150 วัน เมื่อร่างกฎหมายเลือกตั้งที่จำเป็นทั้งหมดมีผลบังคับใช้ ดังนั้นความล่าช้าในการบังคับใช้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จะส่งผลให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป
รอยเตอร์ระบุว่าพวกพรรคการเมืองต่างๆออกโวยวายในวันพฤหัสบดี(25ม.ค.) ว่าการลงมติดังกล่าวเป็นอุบายของคณะรัฐประหารที่ต้องการอยู่ในอำนาจต่อไป โดยปัจจุบันคณะรัฐประหารยังไม่ยกเลิกคำสั่งห้ามรณรงค์ทางการเมือง แม้เมื่อเดือนที่แล้วจะออกคำสั่งอนุญาตให้พรรคการเมืองต่างๆเตรียมการได้บางอย่างก่อนหน้าการเลือกตั้ง
สื่อมวลชนต่างประเทศแห่งนี้อ้างคำแถลงของพรรคเพื่อไทย ระบุว่าการแก้ไขพ.ร.บ. เป็นกลยุทธ์กระชับอำนาจของคณะรัฐประหาร "มันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตใจของพวกที่อยู่ในอำนาจที่ต้องการแสวงหาความได้เปรียบทางการเมือง เพื่อรักษาอำนาจและอยู่ในอำนาจต่อไป"
ด้าน ปีเตอร์ มัมฟอร์ด ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียของบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยง ยูเรเซียกรุ๊ป ให้ความเห็นผ่านรอยเตอร์ "ผมคิดว่าพวกเขายังไม่มั่นใตว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะก่อผลลัพธ์อย่างที่พวกเขาต้องการ"
แม้ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกล่าวในสัปดาห์นี้ เชื่อว่าประชาคมนานาชาติจะเข้าใจหากต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป แต่โฆษกสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯระบุเอเมริกาอาจเห็นไทยคืนสู่ประชาธิปไตย "เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"