เอเอฟพี – จังหวัดปาปัวที่อยู่ห่างไกลของอินโดนีเซีย ล่าสุดพบเกิดวิกฤตทางสาธารณะสุขพบเด็กในพื้นที่ร่วม 800 คนประสบปัญหาล้มป่วยโรคหัดและการขาดอาหารระบาดไปทั่ว และเชื่อว่ามีคนอื่นๆที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอีกร่วม 100 คนเกรงเสียชีวิต
เอเอฟพีรายงานวันนี้(25 ม.ค)ว่า เจ้าหน้าที่อินโดนเซียกล่าวในวันพฤหัสบดี(25)ว่า ตัวเลขล่าสุดแสดงถึงความร้ายแรงของปัญหาวิกฤตทางการสาธารณสุขของจังหวัดปาปัวที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนมกราคม โดนมรสุมกระหน่ำจากปัญหาการขาดแคลนการให้บริการทางสาธารณสุข และบริการปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ
ทั้งนี้พบว่า ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วีโดโด ได้ออกคำสั่งให้ทีมกองทัพแดนอิหนาและทีมการแพทย์นำสิ่งของจำเป็นที่ให้การช่วยเหลือไปยังหมู่บ้านที่ห่างไกล ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความไม่สงบระดับไม่รุนแรงในพื้นที่จากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งเป็นผลมาจากความยากจนเป็นหลัก
ในขณะที่แพทย์ประจำโรงพยาบาลพื้นที่ตั้งในอากัตส์( Agats )ขาดแคลนเครื่องมือการแพทย์และยา แต่จำเป็นต้องรับมือกับบรรดาตนไข้เด็กเล็กจำนวนมากที่ส่งเสียงร้องไห้อย่างน่าเวทนากลางโถงทางเดินของโรงพยาบาลในวันนี้(25)
เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียต้องตกตะลึงต่อจำนวนคนไข้โรคหัดที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ที่ส่วนหนึ่งเกิดมาจากปัญหาภูมิคุ้มกันต่ำเนื่องมาจากการขาดอาหาร ซึ่งบรรดาผู้ปกครองของเด็กเหล่านี้ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการนำบุตรหลานของตนมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน Agats ซึ่งเป็นสถานพยาบาลขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคอัสมาต( Asmat )ที่กำลังเกิดวิกฤตโรคหัดระบาดขั้นร้ายแรง
ทั้งนี้อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่กองทัพอินโดนีเซียพบว่า มีผู้ป่วยที่เป็นเด็กจำนวนราว 800 คนที่ล้มป่วยจากปัญหาระบาดของโรคหัดและการขาดอาหาร ซึ่งมีการเกรงว่าอาจมีคนอื่นๆที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กร่วม 100 คนเสียชีวิตจากเหตุนี้ในจังหวัดปาปัว ในขณะที่มีเด็กอีก 12,000 คนที่ไม่ได้แสดงอาการถูกเข้ารับการรักษา ที่รวมไปถึงการได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดโรค
โดยริชาร์ด มิริโร(Richard Mirino)ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยอมรับกับเอเอฟพีว่า “เราได้รับข้อมูล(เกี่ยวกับการระบาด)ช้าเกินไปจนทำให้ตัวเลขการเสียชีวิตพุ่งสูง”
นอกจากนี้พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหลายสิบคนถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โบสถ์คริสต์ในพื้นที่เนื่องมาจากประสบปัญหาพื้นที่ไม่พอในตัวโรงพยาบาลขนาด 80 เตียง
ทั้งนี้พบว่าในการที่คนในพื้นที่จังหวัดปาปัวจะหาอาหารรับประทานในแต่ละวัน พวกเขาต้องออกไปล่าสัตว์หรือไม่ก็ตกปลา ไม่มีร้านค้าตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลเหล่านี้จากสาเหตุที่ชาวปาปัวนั้นดำรงชีวิตอยู่กึ่งแบบชนเผ่าเร่ร่อน ซึ่งหนึ่งในผู้ปกครองของเด็กชายที่ล้มป่วยต้องถูกนำตัวมายังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาโดยทางเรือจากหมู่บ้านขนาดเล็กที่ห่างไกล
เอเอฟพีรายงานว่า ในภูมิภาคอัสมาตมีเด็กจำนวน 70 คนเสียชีวิต ที่เชื่อว่ามีจำนวนมากกว่าหลายสิบคน รวมไปถึงเด็กและผู้ใหญ่ที่เชื่อว่าเสียชีวิตจากการระบาดในเขตภูเขาที่ห่างไกล ออคซิบี( Oksibi)