เอเจนซีส์ - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกมือมืดแทรกตัวกลางฝูงชนในกรุงซานเตียโก ชิลี ปาสิ่งของที่คาดว่าอาจจะเป็น “ผ้าขนหนู” หรือ “เสื้อ” ใส่ในระหว่างเสด็จอยู่บนรถโป๊ปโมบิลแบบเปิดโล่ง ระหว่างทางเสด็จเพื่อทรงนำพิธีสวดมิสซา แต่ตามรายงานไม่พบว่าพระองค์ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีรายงานการจับตัวมือมืด ในขณะเดียวกัน ในพิธีสวดมิสซาในเมืองเตมูโก (Temuco) ผู้นำคริสตจักรคาทอลิก ประกาศให้ร่วมหยุดสงครามความขัดแย้งมาปูเช (Mapuche) ที่ยาวนาน
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) ว่า ในระหว่างการเสด็จด้วยรถโป๊ปโมบิลแบบเปิดโล่งท่ามกลางฝูงชนชาวชิลีที่มารอต้อนรับ ต่างต้องตกตะลึงไปทั่วเมื่อพบว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงถูกมือดีปาสิ่งของที่ดูคล้าย “ผ้าขนหนู” หรือ “เสื้อ”
วิดีโอคลิปที่ถูกถ่ายจากสวนสาธารณะ โอ ฮิกกินส์ ปาร์ก (O'Higgins Park) ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกรุงซานเตียโก ชิลี พบว่าสิ่งของที่ผู้ปาขึ้นไปนั้นไปถูกบริเวณด้านซ้ายของบริเวณใบหน้าของโป๊ปพอดี เฉียดส่วนบริเวณตาไปนิดเดียว แต่ในรายงานของสื่อรัสเซียชี้ว่า ดูเหมือนพระองค์จะทรงไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีอาการตกพระทัย โดยทรงยังพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้กับฝูงชนต่อไปเหมือนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งนี้ การเสด็จเยือนชิลีของพระองค์เกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงด้วยความรุนแรง และพบว่ามีโบสถ์คริสต์ถูกโจมตีเนื่องมาจากที่ประชาชนยังคงโกรธแค้นที่โป๊ปได้แต่งตั้งบิชอปองค์ใหม่ประจำชิลีทั้งๆ ที่เป็นพระที่มีปัญหาอื้อฉาวด้านละเมิดทางเพศ และความพยายามการปิดข่าวฉาว
นอกจากนี้ยังมีการต่อต้านออกมาจากกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนการยุติการตั้งครรภ์ในชิลี และผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการที่รัฐบาลชิลีใช้งบจำนวนมากในการต้อนรับการเสด็จมาเยือนชิลีอย่างเป็นทางการของพระประมุขแห่งวาติกัน ซึ่งพบว่ามีผู้ประท้วงราว 30 คนถูกจับหลังจากออกเดินประท้วงในการประท้วงที่เมืองกอนเซปซีออน (Concepción) หลังจากที่ระหว่างเดินมาร์ชได้ประกาศไปด้วยว่า เจ้าหน้าที่ชิลีไม่ได้แสดงถึงโฉมหน้าชิลีอย่างแท้จริงต่อโป๊ป
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเยือนชิลี พระองค์ได้ส่งสารไปยังประชาชนว่า ให้ต่อต้านต่อความรุนแรง และเรียกร้องความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นเพื่อดับสงครามความขัดแย้งมาปูเช( Mapuche)ที่ยาวนาน
สารที่โป๊ปฟรานซิสทรงส่งออกมาเกิดขึ้นระหว่างพิธีมิสซากลางแจ้งที่พระองค์เป็นผู้นำในเมืองเตมูโก (Temuco) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามเมืองหลวงแห่งชนเผ่ามาปูเช โดยทรงตรัสว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างชุมชนมาปูเชและเจ้าหน้าที่ชิลีนั้นไม่ใช่คำตอบ
“ความรุนแรงสร้างความรุนแรง” โป๊ปฟรานซิสตรัส และทรงตรัสต่อว่า “พวกท่านไม่สามารถทำตัวเองให้มีความมั่นใจได้ด้วยการทำลายผู้อื่น” และทรงเสริมว่า เพราะสิ่งนั้นจะนำไปสู่ความรุนแรงและการแบ่งเป็นฝักฝ่ายในที่สุด
นอกจากนี้ โป๊ปฟรานซิสทรงได้ชี้ให้เห็นถึงภัยความรุนแรงว่า “ในท้ายที่สุดความรุนแรงจะทำให้สิ่งที่สมเหตุสมผลมากที่สุดกลายเป็นคำโกหก” ซึ่งการสมานฉันท์หรือปรองดองนั้นพระองค์ตรัสว่า “ความเป็นหนึ่งเดียวไม่สามารถเกิด หรือจะไม่สามารถเกิดขึ้น จากการสยบผู้อื่น หรือเงียบเสียงแห่งความแตกต่าง”
บีบีซีชี้ว่า ผู้คนจำนวนมากได้เดินทางมายังลานบินเมืองเตมูโกเพื่อร่วมทำพิธีมิสซา ซึ่งตั้งห่างจากกรุงซานเตียโกของชิลีออกไปทางใต้ราว 800 กม.
โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้พบว่ามีโบสถ์คริสต์จำนวนหนึ่งในชิลีถูกโจมตี ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่าเป็นความเสียหายเกิดจากระเบิดเพลิง หรือการพ่นสีขีดเขียนให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีการพบใบปลิวสดงคำขู่ทิ้งไว้ด้านในโบสถ์ โดยมีข้อความว่า “ครั้งต่อไปเป้าหมายคือโป๊ป” และก่อนหน้าที่โป๊ปฟรานซิสจะเสด็จมายังภูมิภาคนี้ ตำรวจชิลีแถลงว่ามีโบสถ์คาทอลิก 2 แห่งถูกจุดไฟเผา รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ตัวซึ่งมีบริษัทอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นเจ้าของ
แต่ทว่ามาจนถึงเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่ว่าก่อนหน้ากลุ่มนักเคลื่อนไหวมาปูเชเคยออกมาเคลื่อนไหวโจมตีไปที่โบสถ์คริสต์ เพื่อแสดงต่อสาธารณะถึงจุดยืนการไม่เห็นด้วยต่อรัฐและคริสตจักรที่ได้ปฎิบัติต่อชนเผ่ามาปูเช เป็นหนทางตอกย้ำที่ทางชนเผ่าต้องการเรียกร้องที่ดินของบรรพบุรุษกลับคืน
ก่อนหน้าในวันอังคาร (16) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงได้พบกับกลุ่มเหยื่อชาวชิลีที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยบาทหลวงในคริสตจักร