เกาหลีเหนือ-ใต้เห็นพ้องเดินขบวนเข้าพิธีเปิด “โอลิมปิก” พร้อมกัน รวมทีมฮอกกี้น้ำแข็งหญฺิงลงชิงชัย

รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเดินพาเหรดเข้าสู่พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงโซลภายใต้ธงเดียวกัน และจะรวมทีมฮอกกี้น้ำแข็งประเภทหญิงส่งเข้าชิงชัยในมหกรรมกีฬาดังกล่าวซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้า ตามการเปิดเผยของโสมขาวในวันพุธ (17 ม.ค.) ความก้าวหน้าล่าสุด หลังจากทั้งสองชาติได้เปิดเจรจากันรอบใหม่ท่ามกลางความสัมพันธ์ข้ามพรมแดนที่เป็นมิตรขึ้น

เปียงยางและโซลเริ่มเจรจากันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวของโสมแดง บรรเทาเหตุเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน อันเนื่องจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แม้ญี่ปุ่นเตือนให้ระมัดระวังปฏิบัติการหว่านเสน่ห์ของโสมแดง

สองชาติเกาหลีจะเข้าแข่งขันในฐานะทีมรวมเฉพาะกิจในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรก แม้ว่าพวกเขาเคยร่วมทีมกันตามการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอื่นๆ มาก่อน

ถ้อยแถลงร่วมที่เผยแพร่โดยกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่าเกาหลีเหนือจะส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว มากกว่า 400 คน ประกอบด้วยเชียร์ลีดเดอร์ 230 คน, ศิลปิน 140 คน และนักกีฬาสาธิตเทควันโด 30 คน พร้อมระบุว่าในส่วนตัวเลขที่แน่ชัดของนักกีฬานั้น จะต้องเคาะกันอีกครั้งหลังการหารือกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)

คาดหมายว่าคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือจะเริ่มทยอยเดินทางถึงเกาหลีใต้ในวันที่ 25 มกราคม ถ้อยแแถลงระบุ พร้อมเผยว่านอกเหนือจากจะมีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกแล้ว เกาหลีเหนือจะส่งคณะผู้แทนอีกราว 150 คนเข้าร่วมในกีฬาพาราลิมปิกด้วยเช่นกัน

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ เผยว่าทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหลายประเด็น ในนั้นรวมถึงจำนวนของคณะนักกีฬาของเกาหลีเหนือและกิจกรรมวัฒนธรรมร่วม

ในวันอังคาร (16 ม.ค.) เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เห็นพ้องร่วมกันว่าวงออร์เคสตราของเปียงยาง ที่มีสมาชิก 140 คน จะเดินทางมาแสดงในเกาหลีใต้ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเมืองเปียงชาง ขณะเดียวกัน นอกเหนือนักกีฬาและวงออเคสตราแล้ว เปียงยางยังมีแผนส่งคณะผู้แทนจำนวนมากมาเข้าร่วมมหกรรมกีฬาครั้งนี้ด้วย

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯและพันธมิตรบรรดาประเทศที่หนุนหลังเกาหลีใต้ระหว่างสงครามเกาหลีปี 1950-53 รวม 20 ชาติ เห็นพ้องกันในการประชุม ณ เมืองแวนคูเวอร์ ที่จะหาทางยกระดับมาตรการลงโทษเพื่อกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน สำทับว่าถ้าเปียงยางไม่เลือกเจรจา ก็อาจเท่ากับจุดชนวนสู่การตอบโต้ทางทหาร

ทาโร คาโน รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น เตือนว่าโลกไม่ควรพาซื่อกับปฏิบัติการหว่านเสน่ห์ของโสมแดง โดยควรเดินหน้ากดดันต่อ ไม่ใช่จะมาพิจารณาเลิกการลงโทษคว่ำบาตรเพื่อเอาใจโสมแดง เขาย้ำด้วยว่า การที่เปียงยางยอมหารือกับโซลอาจตีความได้ว่า มาตรการแซงก์ชันเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ปฏิเสธละทิ้งโครงการพัฒนาขีปนาวุธที่มีแสนยานุภาพโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐฯ แม้ถูกคว่ำบาตรอย่างรุนแรงจากสหประชาชาติ เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสงครามรอบใหม่ในคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีเหนือเตือนผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า เกาหลีใต้กำลังบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลี ด้วยการยืนกรานให้พวกเขายอมล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์