เอเอฟพี - สตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธเมื่อวานนี้ (16) ที่จะตอบคำถามของคณะกรรมการสภาคองเกรสที่สืบสวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทีมหาเสียงของประธานาธิบดี และรัสเซีย โดยอ้างว่า เขาได้รับคำสั่งจากทำเนียบขาวไม่ให้ตอบ
แบนนอนซึ่งถูกซักถามโดยสมัครใจในห้องปิดโดยคณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร เป็นครั้งแรกที่เขาให้ปากคำในการสืบสวน ว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียในความพยายามก้าวก่ายการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016 หรือไม่
มันต่างกับการให้ปากคำของแบนนอนก่อนหน้านี้ นิวยอร์กไทมส์และวอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อค่ำวานนี้ (16) ว่า เขาถูกเรียกตัวโดย โรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมที่กำลังสืบสวนประเด็นนี้
นั่นทำให้แบนนอนเป็นคนแรกจากวงจรคนในของทรัมป์ที่ได้รับหมายศาลจากมุลเลอร์ในการสืบสวนนี้ที่กำลังตรวจสอบว่า ทรัมป์พยายามขัดขวางการสืบสวนหรือไม่
เมื่อปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการข่าวกรอง แบนนอนปฏิเสธที่จะตอบคำถามชุดหนึ่ง โดยอ้างเอกสิทธิ์ฝ่ายบริหารที่ทำให้ประธานาธิบดีสามารถปกปิดข้อมูลต่อสาธารณะได้
“สตีฟ แบนนอน และทนายของเขาอ้างคำนิยามของเอกสิทธิ์ฝ่ายบริหารที่มีความครอบคลุมอย่างมาก” ส.ส. จิม ไฮเมส สมาชิกของคณะกรรมาธิการจากพรรคเดโมแครต บอกกับซีเอ็นเอ็น
“มันคือประธานาธิบดีที่มีเอกสิทธิ์ฝ่ายบริหาร ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปปรึกษากับทำเนียบขาว และทำเนียบขาวบอกว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น การติดต่อสื่อสารใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในขณะที่ สตีฟ แบนนอน อยู่ในทำเนียบขาวหรือระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน การติดต่อสื่อสารใดๆ นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้” ไฮเมส กล่าว