เอเจนซีส์ – สองสามีภรรยาชาวแคลิฟอร์เนียถูกตั้งข้อหาหนัก หลังตำรวจบุกช่วยเด็ก 13 คนซึ่งเป็นลูกๆ ของหญิงชายคู่นี้ที่ถูกทิ้งให้อดอยาก บางคนถูกล่ามโซ่ไว้กับเตียงท่ามกลางความมืดและกลิ่นเหม็นตลบอบอวล เด็กเหล่านี้มีตั้งแต่อายุ 2-29 ปี ขณะที่เพื่อนบ้านช็อกไปตามๆ กัน และบอกว่า บ้านนี้ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ด้านสื่อขุดคุ้ยว่า สองสามีภรรยาเคยยื่นล้มละลายมาแล้วสองครั้ง ทั้งที่ขณะนั้นฝ่ายชายทำงานเป็นวิศวกรบริษัทรับเหมาสัญญากลาโหมชื่อดัง และรับเงินเดือนปีละ 140,000ดอลลาร์ (ราว 4.55 ล้านบาท)
สำนักงานพนักงานฝ่ายปกครองเทศมณฑลริเวอร์ไซด์แถลงเมื่อวันจันทร์ (15 ม.ค.) ว่า ตำรวจบุกไปที่บ้านหลังดังกล่าวที่อยู่ในเมืองเพอร์ริส ห่างจากลอสแองเจลีสไปทางตะวันออกประมาณ 113 กิโลเมตร หลังจากเด็กสาววัย 17 ปีคนหนึ่งที่หนีออกมาได้และใช้โทรศัพท์มือถือที่เจอในบ้าน โทรศัพท์หาตำรวจเมื่อวันอาทิตย์ (14)
สำนักงานตำรวจแถลงตามมาว่า เจ้าหน้าที่ถึงกับช็อกเมื่อพบว่า เด็กอีก 12 คนที่ถูกขังอยู่ในบ้าน จริงๆ แล้วมี 7 คนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และเสริมว่า เหยื่อทั้งหมดอกอยากผอมโซและสกปรกมาก บางคนถูกล่ามโซ่ติดกับเตียงทิ้งไว้ในความมืด ท่ามกลางกลิ่นเหม็นตลบอบอวล
เหยื่อเหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 2-29 ปี ส่วนคนที่หนีออกไปและแจ้งตำรวจนั้นก็ดูคล้ายอายุเพียง 10 ปี มากกว่า 17 ปี
พ่อแม่ของเด็กทั้งหมดคือ เดวิด แอลเลน เทอร์พิน วัย 57 ปี และ ลูอิส แอนนา เทอร์พิน วัย 49 ปี ที่ไม่สามารถให้เหตุผลที่ชอบธรรมได้ว่า เหตุใดจึงกักขังลูกๆ ไว้ในสภาพดังกล่าว ทั้งคู่จึงถูกจับกุมและตั้งข้อหาทรมานและทารุณกรรมเด็ก และกำหนดวงเงินประกันตัวคนละ 9 ล้านดอลลาร์
เพื่อนบ้านหลายคนบอกว่า ครอบครัวนี้แทบไม่โผล่หน้าออกมาจากบ้านปูนสไตล์สเปนที่รกรุงรังและตั้งอยู่ในย่านชนชั้นกลาง
ภายในบริเวณบ้านของครอบครัวเทอร์พินมีรถจอดอยู่ 4 คัน โดยเป็นรถตู้ติดฟิล์ม 1 คัน นอกจากนี้รถคันหนึ่งที่เป็นรถเล็กสีฟ้า มีเบาะนั่งเด็กวางอยู่บนเบาะหลัง
ตำรวจพบสิ่งบ่งชี้ว่า เด็กๆ เหล่านั้นเคยได้รับอนุญาตให้เล่นอยู่นอกบ้านได้เมื่อหลายปีมาแล้ว
เวนดี้ มาร์ติเนซ วัย 41 ปี บอกว่า เคยทักทายครอบครัวเทอร์พินครั้งเดียวตอนที่เดินผ่านในช่วงคืนหนึ่งของเดือนตุลาคม ซึ่งเธอเห็นเด็ก 4 คนกำลังช่วยกันตัดหญ้าบนสนามโดยมีผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ที่ประตู แต่ไม่มีใครตอบคำทักทายเธอ ซ้ำดูเหมือนเด็กเหล่านั้นหวาดกลัวมากราวกับไม่เคยเจอคนภายนอกมาก่อน
จาเมเลีย อดัมส์ เพื่อนบ้านวัย 39 ปี บอกว่า ช็อกมากและไม่น่าเชื่อว่า บ้านที่มีรถรุ่นใหม่หลายคันจอดอยู่บนสนาม กลับจับลูกๆ ที่บางคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ขังไว้อย่างอดอยากและสกปรก
ตำรวจเผยว่า ลูก 6 คนของครอบครัวนี้เป็นผู้เยาว์ ส่วนอีก 7 คนอายุเกิน 18 ปี
บนหน้าเฟซบุ๊กของเดวิดและหลุยส์ มีภาพทั้งคู่สวมชุดแต่งงานเข้าพิธีด้วยกันหลายครั้งตั้งแต่ปี 2011-2016 โดยมีลูกสาว 10 คน และลูกชาย 3 คนร่วมเป็นสักขีพยาน
ทะเบียนประวัติของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า เดวิดเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนแซนด์แคสเซิล เดย์ สกูล ซึ่งแจ้งที่ตั้งที่เดียวกับบ้านของพวกเขา และเริ่มเปิดกิจการในเดือนมีนาคม 2011 โดยมีนักเรียนแค่ 6 คน ขณะที่สื่อรายงานว่า ครอบครัวเทอร์พินแจ้งล้มละลายในปี 2011
ลอสแองเจลีส ไทมส์รายงานว่า ครอบครัวนี้ย้ายจากเทกซัสไปอยู่ที่เพอร์ริสตั้งแต่ปี 2010 และเคยล้มละลายมาแล้ว 2 ครั้ง
ด้านนิวยอร์ก ไทมส์รายงานโดยอ้างเอกสารคำร้องที่ทั้งคู่ยื่นต่อศาลเมื่อครั้งแจ้งขอล้มละลายเมื่อ 7 ปีที่แล้วซึ่งระบุว่า สองสามีภรรยามีหนี้สินจากการเปิดโรงเรียน 100,000-500,000 ดอลลาร์
นิวยอร์ก ไทมส์ยังบอกว่า ในปีที่ยื่นล้มละลายนั้น เดวิดทำงานเป็นวิศวกรให้บริษัทรับเหมาสัญญากลาโหม นอร์ธรอป กรัมแมน และมีรายได้ปีละ 140,000 ดอลลาร์ ส่วนภรรยาระบุว่า เป็นแม่บ้าน
แนนซี เทรฮัน เจ้าหน้าที่สำนักงานกฎหมายที่ดำเนินการเกี่ยวกับการล้มละลายในเทเมคูลา รัฐแคลิฟอร์เนีย เล่าว่า สองสามีภรรยาดูเป็นมิตรและพูดถึงลูกๆ ไม่หยุดปาก