xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: รัฐสภากรีซยกมือเสียงท้วมท้น ครั้งแรกในรอบศตวรรษ แก้กม.อนุญาตให้สามารถแทรกแซง “ศาลชารีอะห์” ได้ กระทบมุสลิมกว่าแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(9 ม.ค) รัฐสภากรีซได้ยกมืออนุมัติอย่างท้วมท้น แก้ไขกฎหมายอายุร่วม 100 ปีที่เคยให้สิทธิ์กฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามมีอำนาจเหนือกฎหมายครอบครัวกรีซในชุมชนมุสลิมในภูมิภาคเธรซตะวันตก(Western Thrace) หากว่ามีผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียไม่เห็นชอบศาลตามหลักศาสนาอิสลาม กรีซเป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่ยอมรับศาลชารีอะห์

DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้(10 ม.ค)ว่า ในวันอังคาร(9) สมาชิกรัฐสภากรีซยกมือออกเสียงสนับสนุนการแก้ไขกฎหมาย ให้จำกัดขอบขตการใช้กฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม ที่ถูกใช้ภายในชุมชนคนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในภูมิภาคเธรซตะวันตก(Western Thrace)ซึ่งมีพลเมืองมุสลิมอาศัยที่นั่นเกือบ 120,000 คน

ทั้งนี้ภายใต้การแก้ไขใหม่ได้กำหนดให้ศาลตามหลักศาสนาอิสลามสามารถให้การตัดสินเฉพาะในคดีครอบครัว เป็นต้นว่า คดีหย่าร้าง คดีการรับอุปการะบุตร และคดีมรดกหากว่าทุกฝ่ายเห็นชอบ และศาลกรีซภายใต้กฎหมายกรีกจะถูกเข้ามามีส่วนก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายไม่เห็นชอบในการให้ศาลชารีอะห์เข้ามาตัดสินในข้อขัดแย้ง

ด้านนายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส ออกมาแสดงความยินดีต่อการลงมติครั้งสำคัญ โดยเรียกว่า “ถือเป็นก้าวย่างทางประวัติศาสตร์” ที่ได้กระจายความเท่าเทียมกันด้านกฎหมายไปยังประชาชนกรีกทุกคน ในขณะที่ยังคงเคารพใน ลักษณะพิเศษที่แตกต่างของชุมชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมของกรีซไว้

DWรายงานว่า กรีซเป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่รับรองศาลตามหลักศาสนาอิสลาม

ซึ่งภายใต้ศาลตามหลักศาสนาอิสลาม มุฟตี (Mufti) หรือผู้ตัดสินชี้ขาดสูงสุดทางศาสนาอิสลาม นั้นจะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลกรีซ ใช้อำนาจตามข้อสนธิสัญญาโลซานปี 1923 ระหว่างตุรกีและกรีซหลังอาณาจักรออตโตมานล่มสลาย ทำการตัดสินคดีภายในเวิสต์เทิร์น เธรซ

และภายใต้สนธิสัญญาฉบับนี้ยังรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนพลเมืองราว 2 ล้านคนระหว่างตุรกีและกรีซ เว้นแต่หมู่เกาะทะเลเอเจียนบางแห่ง และชุมชนกรีกออร์โธดอกซ์ในเมืองอิสตันบูลและชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่ที่พูดภาษาตุรกีในเวิสต์เทิร์น เธรซ

ส่งผลทำให้ชุมชนคนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมและชุมชนกรีกออร์โธดอกซ์ได้รับอนุญาตสิทธิพิเศษทั้งในด้านภาษา วัฒนธรรม และสิทธิทางศาสนาตามที่ถูกระบุภายใต้สนธิสัญญาฉบับนี้

สื่อเยอรมันชี้ต่อว่า แต่ถือเป็นสิ่งที่แปลกเมื่อพบว่าชุมชนชาวมุสลิมในกรีซต้องถูกบังคับภายใต้กฎหมายอิสลาม ในขณะที่ฝ่ายตุรกีเดินหน้าไปใช้กระบวนการทางยุติธรรมที่ไม่อิงตามหลักศาสนา

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลกรีซเกรงที่จะต้องทำการเปลี่ยนแปลงใดๆกระทบต่อกฎหมายครอบครัวตามหลักศาสนาอิสลาม เพราะเกรงว่าตุรกีจะฉวยโอกาสเรียกร้องให้มีการแก้ไขสนธิสัญญาโลซาน ซึ่งในการเยือนกรีซในเดือนธันวาคมล่าสุด ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ออกมาชี้ว่า กรีซยังไม่ทำตามข้อตกลงสนธิสัญญาโลซานปี 1923 ในการที่ให้การเคารพชุมชนคนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในกรีซ

การออกมาแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจศาลตามหลักศาสนาอิสลามนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่หญิงม่ายชาวมุสลิม ฮาติจาห์ มอลลา ซัลลนี(Hatijah Molla Salli) จากเมืองโคโมตินี( Komotini) ในเธรซตะวันตก ยื่นเรื่องร้องต่อศาลกรีซว่าด้วยปัญหาความขัดแย้งด้านมรดกกับพี่น้องหญิงของฝ่ายสามีที่ล่วงลับ และเธอถูกศาลกรีกตัดสินให้ชนะ

แต่ทว่าในปี 2013 พบว่าศาลสูงสุดกรีซออกคำพิพากษาชี้ขาดว่า มีเพียงมุฟติของศาลชารีอะห์เท่านั้นที่มีอำนาจทางกฎหมายในการชี้ขาดคดีมรดกของชนกลุ่มน้อยมุสลิม และนำมาสู่การที่ศาลยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ECHR จะออกคำพิพากษาในปีนี้ โดยทาง DW กล่าวว่า อาจจะสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลกรีซได้




กำลังโหลดความคิดเห็น