เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกประจำปี หรือเวิลด์อีโคโนมิก ฟอรัม ครั้งที่ 48 ที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายเดือนนี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่ปรากฏตัวในเวทีดังกล่าว
ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาววานนี้ (9 ม.ค.) ระบุว่า ทรัมป์ ซึ่งมีแนวคิดแบบชาตินิยมและบริหารประเทศภายใต้กรอบนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America Fisrt) จะถือโอกาสนี้นำเสนอมุมมองของเขาเองต่อวงเสวนาทางเศรษฐกิจซึ่งสนับสนุนโลกาภิวัตน์
“ท่านประธานาธิบดีรู้สึกยินดีที่จะได้มีโอกาสชี้แจงนโยบายอเมริกาเฟิร์สต์ให้ผู้นำทั่วโลกรับทราบ” ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ระบุ
“ในการประชุมเวิลด์อีโคโนมิก ฟอรัม ปีนี้ ท่านเตรียมที่จะโปรโมตนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และแรงงานชาวอเมริกัน”
อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เป็นผู้นำสหรัฐฯ ในตำแหน่งคนแรกและคนล่าสุดที่เข้าร่วมการประชุมที่ดาวอสเมื่อปี 2000 ขณะที่ผู้นำคนต่อๆ มาอย่าง จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบารัค โอบามา ต่างหลีกเลี่ยงไม่เข้าประชุมด้วยตนเอง
ทรัมป์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่อมกระตือรือร้นที่จะพบปะกับบรรดามหาเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียง แต่การตัดสินใจเข้าร่วมประชุมเศรษฐกิจที่ดาวอสในปีนี้อาจมีแรงจูงใจด้านภูมิรัฐศาสตร์อยู่ด้วย เนื่องจากปีที่แล้วสหรัฐฯ พลาดท่าปล่อยให้ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีนเข้าไปยึดหัวหาด และฉายแสงโดดเด่นในฐานะผู้นำการปกป้องโลกาภิวัตน์และการค้าเสรี ในขณะที่สหรัฐฯ เดินสวนทางสู่ลัทธิกีดกันการค้า
ระหว่างการปราศรัยที่ดาวอสเมื่อปีที่แล้ว สี่ เอ่ยเตือนว่า “ไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจีนนั้นมุ่งมั่นที่จะเข้ามาเติมเต็มสุญญากาศ ขณะที่ผู้นำทำเนียบขาวมัวแต่พะวงถึงผลประโยชน์ของอเมริกาเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทชั้นนำต่างๆ ยังคงชี้ถึงช่องว่างระหว่างคำพูดสวยหรูของ สี่ กับความเป็นจริงที่การเข้าไปประกอบธุรกิจในจีนนั้นยังมีอุปสรรคไม่น้อย
นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสงสัยว่า ทรัมป์จะทำให้นโยบาย “อเมริกาเฟิสต์” ของเขาเป็นที่ยอมรับในสายตาพวกผู้นำโลกที่ยึดกฎกติกาเป็นที่ตั้ง (rules-based) ได้อย่างไร
“คำถามสำคัญก็คือ เขาจะทำตัวให้เป็นที่ยอมรับในสายตาผู้ร่วมประชุมที่ดาวอส หรือจะช็อกคนฟังด้วยสุนทรพจน์ต่อต้านโลกาภิวัตน์ อย่างที่เขามักจะกล่าวเวลาอยู่บ้าน” สกอตต์ มุลเฮาเซอร์ อดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็น
การประชุมเวิลด์อีโคโนมิก ฟอรัม ครั้งที่ 48 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค. โดยธีมการประชุมในปีนี้คือ “การสร้างอนาคตร่วมกันในโลกที่กำลังแตกแยก” (Creating a Shared Future in a Fractured World)
