เอเจนซีส์/เอพี - หลังจากที่กองกำลังปกป้องการปฏิวัติอิหร่านเข้ายุติการประท้วง ล่าสุดกลุ่มสิทธิมนุษยชนอิหร่านออกมาเปิดเผยว่ามีผู้ประท้วงไม่ต่ำกว่า 3 รายเสียชีวิตในขณะที่ถูกควบคุมท่ามกลางการกวาดล้างและจับกุมอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลเตหะราน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนในอิหร่านต่างออกมาแสดงความวิตกต่อการจับกุมครั้งใหญ่ในการประท้วงครั้งมโหฬารที่ปะทุขึ้นในรอบเกือบ 10 ปี หลังพบว่ามีผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 คนเสียชีวิตในระหว่างการถูกควบคุมตัว
โดยในวันนี้ (9) เอพีรายงานว่า รัฐสภาอิหร่านแถลงถึงตัวเลขการจับกุมถึง 3,700 คนในช่วงเวลาที่เกิดการประท้วงนาน 2 สัปดาห์ โดยเว็บไซต์รัฐสภาอิหร่าน icana.ir ได้รายงานคำพูดของสมาชิกรัฐสภาอิหร่าน มาห์มูด ซาเดกี (Mahmoud Sadeghi) ที่ได้ออกมาชี้ว่า หน่วยงานความมั่นคงอิหร่านและหน่วยงานข่าวกรองอิหร่านได้มีการจับกุมตัวผู้ประท้วง ทำให้เป็นการยากที่จะประเมินถึงตัวเลขผู้ถูกจับกุมที่แท้จริง
แต่อย่างไรก็ตาม ทางซาเดกีไม่ได้เปิดเผยถึงที่มาของตัวเลข หรือการให้คำอธิบายเพิ่มเติม
ก่อนหน้า รัฐมนตรีมหาดไทยอิหร่าน อับโดลเรซา ราห์มานี ฟาซลี (Abdolreza Rahmani Fazli) เคยแถลงว่า มีจำนวนผู้ประท้วงสูงสุดไม่เกิน 42,000 คนได้เข้าร่วมในสัปดาห์ของการประท้วงเตหะราน ซึ่งตัวเลขการจับกุมที่เปิดเผยมาในวันอังคาร (9) ทำให้ชี้ไปได้ว่า มีมากกว่า 10% ของผู้ที่ได้เข้าร่วมการประท้วงถูกจับกุมตัว
เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า สมาชิกรัฐสภาอิหร่านที่ใกล้ชิดกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวกลางถนนเรียกร้องปฏิรูปได้ออกมายืนยันในวันจันทร์ (8) ว่า มีผู้ถูกจับกุม 1 รายเสียชีวิต คือ ซีนา กานบารี (Sina Ghanbari) โดยพบว่าเขาเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมภายในเรือนจำเอวิน (Evin)
นอกจากนักกฎหมายสิทธิมนุยชนชื่อดังอิหร่าน นาสริน โซเตาเดห์ (Nasrin Sotoudeh) ได้ให้ข้อมูลกับเดอะการ์เดียนผ่านทางโทรศัพท์ที่ออกมาจากกรุงเตหะรานว่า มีผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมอย่างน้อย 2 รายที่เสียชีวิตภายในเรือนจำ แต่ยังไม่ได้ถูกระบุตัว
เดอะการ์เดียนกล่าวว่า ในช่วงระหว่างการประท้วงที่ยาวนานกว่า 1 สัปดาห์ มีการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกิดขึ้น ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คนเป็นอย่างน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประท้วง ในขณะที่มีบางส่วนเป็นผู้รักษาความปลอดภัยอิหร่าน อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ และมีจำนวนมากกว่า 1,000 คน รวมไปถึงนักศึกษาอิหร่าน 90 รายถูกจับกุม
โซเตาเดห์กล่าวว่า “ดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับนักโทษ 1 รายจากเรือนจำเอวิน และได้รับการบอกเล่าว่า มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 3 รายเสียชีวิต” และเธอกล่าวต่อว่า “ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมครั้งใหญ่ พวกเขาไม่สามารถอ้างการปกป้องสิทธิของพวกเขาได้ มันไม่สามารถเป็นไปได้ในสถานการณ์สำหรับกระบวนการทางยุติธรรมที่จะสามารถดำเนินไปได้ในท้ายที่สุด”
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า ดูเหมือนนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่มีชื่อเสียงของอิหร่านจะแสดงความวิตกเป็นอย่างมากที่สุดถึงปัญหาคุกลับอิหร่าน
ด้านกลุ่มนักการเมืองสายปฏิรูปอิหร่าน รวมไปถึงสมาชิกรัฐสภาฝีปากกล้า มาห์มูด ซาเดกี ได้เตือนผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ผมได้ขอเตือนประธานาธิบดี เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และเจ้าหน้าที่กระบวนการทางยุติธรรมอิหร่านที่อาจเกิดกรณีคุกลับ คาห์ริซัค (Kahrizak) ซ้ำอีกครั้ง”
ทางโซเตาเดห์ได้ออกมาแสดงความสงสัยถึงการกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ ซึ่งชี้ไปว่า กานบารี ที่ถูกควบคุมตัวนั้นฆ่าตัวตายเอง โดยเธอได้ชี้ว่า การเสียชีวิตของผู้ประท้วงรายนี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการกวาดล้างนั้นเกิดขึ้นจริง แต่เร็วเกินไปกว่าที่จะเข้าใจถึงขอบเขตความรุนแรงได้ โดยโซเตาเดห์ชี้ว่า “ในปี 2009 ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์จีงจะมีการเปิดเผยถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นภายในคุกลับคาห์ริซัค”
ทนายความสิทธิมนุษยชนอิหร่านยังยืนยันด้วยว่า “เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อสุขภาพของผู้ต้องขัง”
ด้านนักวิจัยประจำองค์การแอมเนสตีสากลในอิหร่าน นาสซิม ปาปาเยียนนี (Nassim Papayianni) ได้ออกมาให้ความเห็น โดยชี้ว่าการสอบสวนของทางแอมเนสตีแสดงให้เห็นว่า “เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงสภาพที่โหดร้ายภายในเรือนจำอิหร่าน ที่มีทั้งผู้ต้องขังล้นคุก การระบายอากาศที่แย่ และแม้กระทั่งมีหลักฐานถึงการทรมานนักโทษ โดยกล่าวว่า
“ทางเราเกรงว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านจะปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับครอบครัวผู้ถูกจับกุมถึงชะตาและว่าในเวลานี้ผู้ถูกจับกุมเหล่านี้นั้นอยู่ที่ใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องยุติกำแพงแห่งความเงียบและเริ่มต้นให้ข้อมูลกับครอบครัวของคนเหล่านี้” ปาปาเยียนนีกล่าว