เอพี - รัฐบาลสหรัฐฯชุดทรัมป์ล่าสุด สั่งยุติโครงการปกป้องพลเมืองเอลซัลวาดอร์ที่อาศัยในสหรัฐฯมานานร่วม 17 ปี จำนวน 200,000 คนให้เดินทางออกนอกประเทศภายในวันที่ 19ก.ย 2019 สร้างความโกรธแค้นให้กับชุมชนชาวซัลวาดอร์เป็นอย่างมาก
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(8 ม.ค)ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ DHS ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์(8) ประกาศยุติโครงการคุ้มครองสถานภาพชั่วคราว TPS ที่ใช้มานาน 17 ส่งผลทำให้ชาวซัลวาดอร์ที่เดินทางมาจากประเทศเอลซัลวาดอร์จำนวนร่วม 200,000 คนต้องเดินทางออกนอกสหรัฐฯ หรือไม่ก็หาทางอื่นในการที่จะอาศัยอยู่ในอเมริกาต่อไป
ซึ่งพบว่าคนเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอเมริกาเพื่อลี้ภัยภายใต้โครงการ TPS หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปี 2001 และโครงการนี้ได้รับการต่ออายุเรื่อยมาในสมัยรัฐบาลชุดต่าง แต่มาสิ้นสุดในสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่ได้ชื่อว่ามีความเข้มงวดในมาตรการอพยพเข้าเมือง
ทั้งนี้ในวันจันทร์(7) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ คริสต์เจน นีลเซน(Kirstjen Nielsen) ได้กล่าวว่า “เงื่อนไขของการขัดขวางเป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตเนื่องมาจากแผ่นดินไหวนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป”
ส่งผลทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในสหรัฐฯภายใต้การคุ้มกันสถานภาพชั่วคราวนี้ต้องตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศภายในวันที่ 19 ก.ย 2019 หรือต้องเสี่ยงที่จะโดนถูกเนรเทศ
ทั้งนี้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ DHS ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า พลเมืองเอลซัลวาดอร์ที่อาศัยอยู่ภายใต้โครงการ TPS มีเวลา 18 เดือนจนกว่าจะถึงระยะเวลาการสิ้นสุดอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับชาวซัลวาดอร์เหล่านี้เดินทางกลับประเทศ และติดต่อเพื่อเริ่มต้นใช้สถานภาพพลเมืองของตนเองภายในประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง
นอกจากนี้ ระยะเวลาดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้พลเมืองเหล่านี้หาช่องทางอื่นในการขออนุญาตเพื่ออาศัยอยู่ในสหรัฐฯต่อไป ซึ่งในปีที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ DHS ได้ยุติโครงการอนุญาตให้พลเมืองเฮติและนิคารากัวอาศัยในอเมริกา
เอพีชี้ว่า ในวันจันทร์(8) นีลเซนซึ่งต้องตัดสินใจภายเมื่อวานนี้ผ8) ซึ่งเป็นเส้นตาย ได้ประเมินว่าประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อเยียวยาวิกฤตแผ่นดินไหว และบ้านประชาชน โรงพยาบาล และโรงเรียนถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ของทางกระทรวงออกมาชี้ว่า ภายใน 2 ปีล่าสุดมีพลเมืองเอลซัลวาดอร์สมัครใจยอมเดินทางกลับประเทศจำนวน 39,000 คน ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า ประเทศเอลซัลวาดอร์มีศักยภาพในการรับพลเมืองกลับเข้าประเทศ