รอยเตอร์ - เมื่อวานนี้(7 ม.ค) เตหะรานสั่งประกาศห้ามสอนวิชาภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถมทั่วประเทศ หลังบรรดาผู้นำทางศาสนาออกมาชี้ การสอนภาษาอังกฤษในช่วงวัยเริ่มต้นการเรียนรู้เป็นช่องทางการรุกรานทางวัฒนธรรมของโลกตะวันตก
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(7 ม.ค)ว่า เมห์ดี นาวิด-อัดฮัม(Mehdi Navid-Adham) ประธานสภาควบคุมการศึกษาระดับสูงของรัฐกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์อิหร่านว่า “การสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐและเอกชนระดับประถมศึกษาในหลักสูตรทางการถือเป็นการละมิดกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ”
ซึ่งทางหัวหน้านักการศึกษาอิหร่านกล่าวให้ความเห็นประกอบว่า “เป็นเพราะจากเหตุผลที่ว่า ในระดับการศึกษาขั้นประถมศึกษานั้นเป็นการวางรากฐานวัฒนธรรมอิหร่านให้กับเด็กชาวอิหร่านทั้งหลาย”
รอยเตอร์ชี้ว่า ตามปกติโดยทั่วไปในอิหร่าน วิชาภาษาอังกฤษจะเริ่มถูกสอนให้กับเด็กๆในระดับมัธยมต้น หรือในเด็กที่มีอายุ 12 ปีไปจนถึง 14 ปี แต่ทว่าในโรงเรียนประถมบางแห่งได้มีการสอนวิชาภาษาอังกฤษด้วย่เช่นกัน
นอกจากนี้ยังพบว่า ในอิหร่านนั้นไม่ต่างจากชาติอื่นๆที่เด็กนักเรียนนอกเหนือจากที่จะเรียนภาษาอังกฤษในชั้นแล้ว แต่ยังเข้าไปเรียนกวดวิชาในช่วงเย็น และในครอบครัวที่มีอันจะกิน ได้มีการส่งบุตรหลานไปโรงเรียนที่มีการสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ
ซึ่งขัดต่อแนวความคิดของผู้นำระดับสูงของอิหร่าน ที่ต่างออกมาประกาศถึงการรุกรานทางวัฒนธรรมของโลกตะวันตก โดยพบว่าในปี 2016 ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาโตลลาห์ อาลี คาเมนี ได้ส่งเสียงแสดงความโกรธที่ในเวลานั้นการสอนวิชาภาษาอังกฤษได้แพร่ลามเข้าไปถึงระดับโรงเรียนอนุบาลแล้ว
ในสุนทรพจน์ที่คาเมนีได้กล่าวกับบรรดารูออิหร่านทั้งหลายมีใจความว่า
“นี่ไม่ได้หมายความถึงการต่อต้านการเรียนภาษาต่างชาติ แต่ (สิ่งนี้) เป็นเสมือนการส่งเสริมวัฒนธรรมต่างแดนภายในประเทศในหมู่เด็กเล็กและเด็กวัยรุ่น”