“ฟูจิโมริ” ออกมาห้ามทัพขอให้ “เปรู” สมานฉันท์ ลืมความโกรธเรื่องอภัยโทษให้หมด

รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อดีตประธานาธิบดีเปรู ผู้อื้อฉาว อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ออกมากล่าวล่าสุดในวันเสาร์ (6 ม.ค) หลังได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ 2 วัน ขอร้องให้เปรูลืมความโกรธแค้นที่มีเพื่อให้การสมานฉันท์สามารถเกิดขึ้นได้ภายในประเทศเพื่อต่อสู้กับความรุนแรงและอาชญากรรมต่างๆ

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (7 ม.ค.) ว่า ในการออกมาแสดงความเห็นครั้งแรกหลังจากได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ อดีตผู้นำเปรู อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านจากโรงพยาบาลที่กรุงลิมาในคืนวันพฤหัสบดี (4) หลังเข้ารับการรักษาโรคหัวใจและโรคความดันเลือด ได้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความเห็นทางการเมืองครั้งแรกเมื่อวานนี้ (6)

โดยเขากล่าวว่า “ผมมักจะถูกไล่ล่าจากความฝันของตัวเอง และต้องการแบ่งปันเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนรับทราบ” ฟูจิโมริให้ความเห็นเป็นครั้งแรกหลังจากได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีเปรูคนปัจจุบัน เปโดร ปาโบล คุซินสกี ในโทษความผิดจำคุก 25 ปี จากความผิดคอร์รัปชันและการละเมิดสิทธิมนุษยชน

รอยเตอร์ชี้ว่า การออกมาให้ความเห็นครั้งแรกของฟูจิโมริ เขาประกาศต้องการเห็นความสมานฉันท์ภายในเปรู อยากให้ประเทศปราศจากการถืโทษโกรธแค้น ซึ่งถือเป็นหมัดแรกที่เขาได้ชกตรงไปยังพรรคคู่แข่งทางการเมือง

โดยรอยเตอร์รายงานว่า การออกมาร้องขอความสมานฉันท์เป็นข้อความที่เขาส่งตรงไปยังฐานเสียงการเมืองปีกขวาของตัวเอง

“เราจะอยู่ในประเทศที่มีความปลอดภัยกลับมาอีกครั้งและความรุนแรงได้หายไป แต่เราจะสามารถทำสิ่งนี้ให้เป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อเอาผลประโยชน์ส่วนตัวและโอกาสวางไว้ข้างๆ เสียก่อน สมานฉันท์ เราทำได้!” รายงานจากแถลงการ์ณของอัลแบร์โต ฟูจิโมริผ่านทางทวิตเตอร์

การออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองใน 2 วันหลังจากถูกปล่อยตัวทำให้เชื่อว่า ฟูจิโมริพร้อมที่จะกลับเข้ามาเป็นผู้เล่นอีกครั้งบนเวทีการเมืองเปรูในการสนับสนุนผู้นำเปรูคนปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ฟูจิโมริมีบุตรชายคนเล็ก เคนจิ ฟูจิโมริ นั่งเป็น ส.ส. อยู่ภายในรัฐสภาเปรู

รอยเตอร์ชี้ว่า ถึงแม้ว่าฟูจิโมริจะถูกตัดสินจำคุกในความผิดคอร์รัปชัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ยังมีประชาชนชาวเปรูเป็นจำนวนมากที่ยังสนับสนุนเขาจากนโยบายแบบประชานิยมของฟูจิโมริที่เอาใจคนชาวรากหญ้าเปรู

โดยบรรดาฐานเสียงของฟูจิโมริต่างกล่าวว่า อดีตผู้นำเปรูเชื้อชาติแดนซามูไรถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมในการที่เขาได้จัดการปัญหากลุ่มกบฏ

ซึ่งผลจากการทำหน้าที่ของฟูจิโมริ ทำให้เปรูมีเสถียรภาพนานเกือบ 20 ปี และรวมไปถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจากแรงผลักดันทางด้านสินค้าคอมโมดิตี แต่ทว่าอาชญากรรมบนท้องถนนกลายเป็นปัญหาอันดับ 1 ที่สำคัญ สำหรับบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเปรูผ่านผู้นำเปรูที่รับไม้ต่อจากฟูจิโมริถึง 4 คน รวมไปถึงคนปัจจุบัน ประธานาธิบดี คุซินสกี

ด้านนักวิเคราะห์การเมืองเปรู ดีเธล โคลอมบัส (Diethell Colombus) ได้วิจารณ์ถึงเนื้อหาขอการสมานฉันท์ของฟูจิโมริ ว่า “บางคนอาจคิดว่า ประธานาธิบดี คุซินสกี ทวีตออกมาผิดแอกเคานต์” และยังกล่าวว่า “นี่เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า หากได้เป็นนักการเมืองแค่ครั้งเดียว ก็จะเหมือนว่าต้องเป็นไปตลอด”

อย่างไรก็ตาม คุซินสกีที่รอดหวุดหวิดจากการลงมติถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดียังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อคณะครม.ใหม่เหมือนอย่างที่เคยสัญญาว่าจะเกิดขึ้น “ในเร็ววันนี้” เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้า รอยเตอร์ชี้

ทั้งนี้ ตัวแทนของคุซินสกีและฟูจิโมริออกมายืนยันอย่างหนักแน่น ว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่สำหรับการให้อภัยโทษอดีตผู้นำเปรู โดยชี้ว่าอยู่บนพื้นฐานมนุษยธรรมเท่านั้น ซึ่งสื่อเปรู สื่ออันดินา (Andina) ของเปรูรายงานถึงก่รเดินทางออกมาจากโรงพยาบาลที่อดีตผู้นำเปรูเข้ารับการรักษา ว่า อดีตประธานาธิบดีเปรู อัลแบร์โต ฟูจิโมริ เดินทางออกมาจากสาขาใหญ่ของคลินิกเซนเตนาริโอ (Centenario Clinic) ในคืนวันพฤหัสบดี(4) หลังจากที่เข้ารับการรักษาตัวมาตั้งแต่วันที่ 23 ธ.คที่ผ่านมา

โดยฟูจิโมริที่เดินทางออกมาจากคลินิกในสภาพนั่งบนรถเข็นโดยมีบุตรชายคนสุดท้อง ส.ส. เคนจิ ฟูจิโมริเป็นผู้เดินออกมาด้วย พร้อมกับทักทายกับบรรดากองทัพนักข่าวที่รออยู่ด้านนอกอย่างอารมณ์ดี และมีการโบกไม้โบกมือทักทายก่อนที่จะเดินทางออกไปด้วยรถ SUV สีดำ