เอเจนซีส์ - พายุฤดูหนาวที่นานทีจะเกิดขึ้นสักครั้งกำลังกระหน่ำภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ทำให้หิมะตกในเมืองเอกของฟลอริดาเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ และหลายมลรัฐจ่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากพายุหิมะและอุณหภูมิติดลบ ขณะเดียวกัน ยุโรปต้องผจญพายุฤดูหนาว “เอเลนอร์” ที่มาพร้อมกระแสลมแรงจัดทำให้มีผู้เสียชีวิต และสร้างปัญหาในการเดินทาง ประชาชนหลายหมื่นคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนที่ จีน สนามบินอย่างน้อย 3 แห่งปิดทำการ เนื่องจากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง
ทั้งผู้ว่าการรัฐฟลอริดา จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และ เวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา ต่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมเตือนประชาชนว่า อาจเจอสภาพถนนเป็นน้ำแข็งและอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ขณะที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯมีการขนเกลือไปโรยบนถนนล่วงหน้าก่อนพายุเข้า
สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) คาดว่า ในวันพฤหัสบดี (4) จะมีหิมะตกทับถมสูง 12 - 20 เซนติเมตร ในนิวยอร์ก และลมแรง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หลายพื้นที่ทางตะวันออกของสหรัฐฯ เผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นเรื้อรังที่ทำให้น้ำตกไนแอการาบางส่วนกลายเป็นน้ำแข็งทั้งบริเวณที่อยู่ในฝั่งอเมริกาและแคนาดา น้ำประปาในท่อกลายเป็นน้ำแข็งและท่อเมนระเบิด และเป็นอุปสรรคต่อการดับเพลิงในบริเวณที่อุณหภูมิติดลบ
สภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติทำให้มีผู้เสียชีวิตในอเมริการวมแล้วอย่างน้อย 9 คน
เอ็นดับเบิลยูเอสยังออกคำเตือนพายุหิมะจากรัฐเวอร์จิเนีย จนถึงเมน โดยคาดว่า จะมีหิมะตกทับถมสูงถึง 30 เซนติเมตร บริเวณรอบๆ บอสตันในวันพฤหัสบดี
ด้าน แอคคิวเวทเธอร์ บริษัทพยากรณ์สภาพอากาศ ระบุว่า หิมะจะตกอย่างรวดเร็วในอัตราหลายนิ้วต่อชั่วโมง และพายุหิมะจะทวีความรุนแรงอันเป็นผลจาก “บอมโบเจเนซิส” (bombogenesis) หรือ “ระเบิดสภาพอากาศ” (bomb cyclone) ซึ่งหมายถึงพายุไซโคลนความกดอากาศต่ำ ที่ปกติแล้วจะเกิดขึ้นตลอดแนวชายฝั่งด้านตะวันออกทุกช่วงฤดูหนาว เพียงแต่ครั้งนี้มีความรุนแรงมากกว่าทุกปี และมวลอากาศอาร์กติกจะปกคลุมพื้นที่ 2 ใน 3 ของภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ตลอดสัปดาห์นี้
ในวันพุธ (3) เฮนรี แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคไลนา เตือนประชาชนในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของรัฐให้อยู่แต่ในบ้าน หากเป็นไปได้ รวมถึงนำสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน ไม่เช่นนั้นอาจแข็งตายได้ทั้งคนและสัตว์
ขณะเดียวกัน สภาพอากาศหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันและความหนาวเย็นจากแรงปะทะของลมส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ถนนหลายสายมีน้ำแข็งปกคลุม ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนนับล้านทางด้านเหนือของฟลอริดาและด้านใต้ของเวอร์จิเนีย รวมทั้งทำให้สนามบินหลายแห่งในเซาท์แคโรไลนาและจอร์เจียต้องยกเลิกเที่ยวบินถึง 50%
ที่แทลลาแฮสซี เมืองเอกของรัฐฟลอริดา มีหิมะตกครั้งแรกนับแต่ปี 1989
ขณะที่อเมริกาเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว ยุโรปก็ต้องผจญกับพายุฤดูหนาว “เอเลนอร์” ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต สร้างความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้าง เครือข่ายการจราจรเป็นอัมพาต และประชาชนหลายหมื่นคนไม่มีไฟฟ้าใช้
รายงานระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 2 คนในสเปน และ 1 คน ในฝรั่งเศสเมื่อวันพุธ (3) นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่าสิบคนในแดนน้ำหอม ซึ่งสำนักงานพยากรณ์อากาศระบุว่า กำลังเผชิญพายุลมแรงที่สุดในรอบ 8 ปี
ลมที่แรงจัดทำให้ต้องปิดสนามบินในสตาร์สบูร์กและบาเซล-มุลเฮาส์ที่บริเวณชายแดนฝรั่งเศสติดกับเยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนเปิดให้บริการอีกครั้งหลังเที่ยงวันพุธ
เที่ยวบินขาออกจากสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในปารีสล่าช้ากว่ากำหนดในช่วงเช้าวันพุธ และบางเที่ยวบินต้องเปลี่ยนเส้นทาง สภาพอากาศเลวร้ายนี้ยังสร้างปัญหากับบริการรถไฟและมอเตอร์เวย์หลายสายในเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศส สืบเนื่องจากลมแรงพัดต้นไม้ล้ม สายไฟห้อยระโยงระยาง และเศษวัสดุอื่นๆ กระจัดกระจายบนเส้นทางสัญจร
ประชาชนราว 225,000 คนทั่วฝรั่งเศสไม่มีไฟฟ้าใช้ และยังคาดว่า จะเกิดน้ำท่วมรุนแรงบริเวณชายฝั่งแอตแลนติก
ก่อนหน้าขึ้นฝั่งยุโรป เอเลนอร์เคลื่อนเข้าสู่อังกฤษและไอร์แลนด์ ทำให้ทางการต้องสั่งปิดผนังกั้นแม่น้ำเทมส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผนังป้องกันน้ำท่วมที่เคลื่อนย้ายได้ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งท่วมลอนดอน
ลมที่วัดความแรงได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เกรตดันเฟลล์ในเวสต์มอร์แลนด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ทำให้รถพลิกคว่ำ ต้นไม้ล้มขวางถนนสายสำคัญ
ที่ไอร์แลนด์ บริษัทไฟฟ้าอีเอสบี สามารถจ่ายไฟฟ้าให้ลูกค้า 123,000 รายได้อีกครั้ง แต่ยังมีอีก 27,000 รายที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
เบลเยียมและบางส่วนในสเปนประกาศเตือนภัยสีส้ม หรือระดับ 3 จาก 4 โดยเจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนระมัดระวังหากต้องเดินทางออกนอกบ้าน
ที่เนเธอร์แลนด์ เที่ยวบินกว่า 250 เที่ยว ในสนามบินสคิปโฮลในอัมสเตอร์ดัมถูกยกเลิก และมีการออกคำเตือนสภาพอากาศในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ทางการดัตช์ปิดผนังกั้นคลื่นพายุซัดฝั่งทั้ง 5 แห่งบริเวณชายฝั่งด้านทะเลเหนือ
สนามบินแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนีและสนามบินซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ประสบปัญหาเช่นเดียวกันจากเอเลนอร์ที่ถือเป็นพายุใหญ่อันดับ 4 ที่กระหน่ำยุโรปนับจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ทางด้านจีน เมื่อวันพฤหัสบดี (4) สนามบินอย่างน้อย 3 แห่งปิดทำการ และอีก 9 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงสนามบินปักกิ่งด้วย เผชิญปัญหาเที่ยวบินล่าช้าเนื่องจากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ศูนย์ข้อมูลการบินแห่งชาติเตือนว่าอาจมีหิมะตกหนักที่สุดระดับ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยที่บางพื้นที่ทางภาคเหนือ ตะวันออก และตอนกลางของประเทศ อาจมีหิมะตกสะสมสูงถึง 30 เซนติเมตร
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติยังเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐในพื้นที่ต่างๆ ใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมถนน ทางรถไฟ ระบบไฟฟ้า และโทรคมนาคม หากสภาพอากาศเลวร้าย
ทางหลวงบางสายในมณฑลเหอหนาน ตอนกลางของประเทศ และเขตปกครองตนเองหนิงเซียทางตะวันตกเฉียงเหนือ ต้องปิดให้บริการเนื่องจากหิมะตก และรถไฟความเร็วสูงหลายสายในมณฑลส่านซีล่าช้ากว่ากำหนด
ศูนย์อุตุนิยมวิทยายังคาดหมายว่า จะมีฝนหรือหิมะตกเป็นวงกว้างในพื้นที่ตอนกลางและตะวันออกของจีนในสัปดาห์หน้า