รอยเตอร์ - อดีตพนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ยอมที่จะรับสารภาพว่าขโมยข้อมูลลับ อ้างจากคำฟ้องต่อศาลเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ในกรณีที่อาจเป็นการขโมยความลับรัฐบาลสหรัฐฯครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
แฮโรล มาร์ติน มีกำหนดจะรับสารภาพความผิดฐานเก็บข้อมูลการป้องกันประเทศโดยเจตนาที่ศาลรัฐบาลกลางในบัลติมอ์ในวันที่ 22 มกราคม อ้างจากคำฟ้อง
ทางการระบุว่า พวกเขายึดข้อมูลขนาด 50 เทราไบต์จากบ้านของมาร์ตินซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าอาจเป็นการขโมยข้อมูลลับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
รัฐบาลไม่ได้ระบุว่ามาร์ตินทำอะไรกับข้อมูลที่ขโมยไป เขาเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีจากความผิดเพียงกระทงเดียว มาร์ตินไม่ได้ทำข้อตกลงรับสารภาพกับคณะอัยการและยังอาจถูกไต่สวนควมผิดอีก 19 กระทงที่เหลือในคำฟ้อง คำฟ้องศาล ระบุ
ทนายความของมาร์ตินยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นในตอนนี้ เอ็นเอสเอได้รับความเสียหายจากการรั่วไหลของข้อมูลหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้
ในเดือนธันวาคม อดีตลูกจ้างเอ็นเอสเอ นเกีย ฮอง โพ รับสารภาพว่าเอาข้อมูลความลับมาโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนหนึ่งกล่าวว่า ต่อมามันถูกขโมยไปจากคอมพิวเตอร์ในบ้านของเขาโดยแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย
มาร์ตินทำงานกับบริษัท Booz Allen Hamilton Holding Corp ตอนที่เขาถูกนำตัวเข้าคุมขังเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016
Booz Allen ยังจ้าง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ปล่อยไฟล์ความลับจำนวนมากให้กับองค์กรข่าวในปี 2013 จนนำไปสู่การเปิดโปงปฏิบัติการสอดแนมในประเทศและระหว่างประเทศที่กระทำโดยเอ็นเอสเอ
มาร์ตินถูกจ้างเป็นพนักงานสัญญาจ้างเอกชนโดยบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง และทำงานให้กับหน่วยงานรัฐหลายแห่งมาตั้งแต่ปี 1993 หลังจากประจำการกองทัพเรือสหรัฐฯเป็นเวลา 4 ปี อ้างจากคำฟ้อง
ตำแหน่งของเขาซึ่งข้องเกี่ยวกับโครงการลับระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลทำให้เขามีสิทธิเข้าถึงชั้นความลับของรัฐบาลหลายอย่าง คำฟ้องระบุ
คำฟ้องยังกล่าวหาว่า มาร์ตินขโมยเอกสารจากกองบัญชาการไซเบอร์แห่งสหรัฐฯ (U.S. Cyber Command) ซีไอเอ และสำนักงานลาดตระเวนแห่งสหรัฐฯ (National Reconnaissance Office)