เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาโจมตีปากีสถานผ่านทวีตแรกในปี 2018 เมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) ระบุเป็นชาติที่ “โกหกหลอกลวง” และยัง “ให้ที่กบดานแก่ผู้ก่อการร้าย” ขณะที่รัฐบาลอิสลามาบัดตอบโต้ทันควัน ย้ำที่ผ่านมาก็ทำอะไรเพื่อสหรัฐฯ มากมาย รวมถึงช่วยทำลายล้างกลุ่มอัลกออิดะห์ แต่กลับได้รับเพียง “คำบริภาษและความไม่ไว้วางใจ” จากอเมริกา
ความสัมพันธ์สหรัฐฯ -ปากีสถานเสื่อมทรามลงอย่างหนัก หลังจากที่ ทรัมป์ ออกมากล่าวหาในเดือน ส.ค. ปีที่แล้วว่า “ปากีสถานมักจะให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่สร้างความวุ่นวาย ความรุนแรง ก่อการร้าย”
ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อเช้าตรู่วันจันทร์ (1) ว่า “สหรัฐฯ โง่ที่จ่ายเงินช่วยเหลือปากีสถานถึง 33,000 ล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 15 ปี แต่พวกเขาไม่เคยให้อะไรเราเลย นอกจากคำโกหกและการหลอกลวง เพราะคิดว่าผู้นำสหรัฐฯ โง่เต็มประดา”
“พวกเขาให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯ ตามล่าอยู่ในอัฟกานิสถาน โดยแทบไม่ช่วยเหลืออะไรเราเลย พอกันที!”
รัฐบาลทรัมป์แจ้งให้สภาคองเกรสทราบเมื่อเดือน ส.ค. ว่ากำลังพิจารณาระงับเงินช่วยเหลือ 255 ล้านดอลลาร์ที่ต้องจ่ายให้อิสลามาบัด เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้ใช้พยายามอย่างจริงจังในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในแฝงตัวอยู่ในประเทศ
ระหว่างชี้แจงแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ ก็ได้ขู่เป็นนัยๆ ว่าอาจจะตัดเงินช่วยเหลือปากีสถาน
“เราจ่ายเงินก้อนโตให้รัฐบาลปากีสถานทุกปี พวกเขามีหน้าที่ต้องช่วยเรา” ทรัมป์ กล่าว
เมื่อปลายเดือน ธ.ค. รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ซึ่งเดินทางไปเยือนอัฟกานิสถานก็ได้บอกกับทหารอเมริกันว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แจ้งเตือนไปยังปากีสถานแล้ว”
สิ่งที่สหรัฐฯ กังวลมากที่สุดก็คือทัศนคติที่รัฐบาลปากีสถานมีต่อเครือข่าย “ฮักกอนี” (Haqqani) ซึ่งเคยจู่โจมทหารอเมริกันในอัฟกานิสถานหลายครั้ง อดีตประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ไมค์ มุลเลน ถึงกับระบุว่า ฮักกอนีเป็น “สาขา” หนึ่งของหน่วยข่าวกรองปากีสถาน
The United States has foolishly given Pakistan more than 33 billion dollars in aid over the last 15 years, and they have given us nothing but lies & deceit, thinking of our leaders as fools. They give safe haven to the terrorists we hunt in Afghanistan, with little help. No more!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) January 1, 2018
เครือข่ายฮักกอนีเคยลักพาตัวคู่รักชาวแคนาดา-อเมริกันไปกักขังเมื่อปี 2012 และกองทัพปากีสถานได้ “ปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิต” พวกเขาออกมาได้เมื่อปีที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้ว่าเป็นแค่การ “เจรจาให้ปล่อยตัว” เท่านั้นเอง
คาวาจา มูฮัมหมัด อาซิฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์จีโอภาคภาษาอูรดูว่า “สหรัฐฯ ควรโทษคนของตัวเองที่ทำภารกิจในอัฟกานิสถานไม่สำเร็จ”
เขายืนยันว่าเงินทุนที่ได้จากสหรัฐฯ ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่เหมาะสม และรัฐบาลปากีสถานก็ปฏิบัติตามสิ่งที่วอชิงตันร้องขอมาโดยตลอด
คุรราม ดัสกีร์ ข่าน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมปากีสถาน ชี้ว่า “ตลอด 16 ปีที่ผ่านมาในฐานะพันธมิตรต่อต้านก่อการร้าย ปากีสถานยอมให้สหรัฐฯ ใช้ประโยชน์ฟรีๆ จากระบบสื่อสารทางอากาศและภาคพื้นดิน, ฐานทัพ รวมถึงความร่วมมือด้านข่าวกรอง แต่พวกเขาไม่เคยตอบแทนอะไรเรา นอกจากคำบริภาษและความไม่ไว้วางใจ”
ปากีสถานยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่เคยเพิกเฉยต่อปัญหาการก่อความไม่สงบ พร้อมตำหนิสหรัฐฯ ว่ามองข้ามผู้เสียชีวิตเป็นพันๆ คนในดินแดนแห่งนี้ ตลอดจนงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลได้ทุ่มให้กับการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ
เหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ปี 2001 กระตุ้นให้สหรัฐฯ สานความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับปากีสถานเพื่อต่อสู้กลุ่มก่อการร้าย ทว่าผู้นำอเมริกันหลายคนระบุตรงกันว่า รัฐบาลปากีสถานซึ่งเคยให้การสนับสนุนตอลิบานไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร