รอยเตอร์ - ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2018 ระบุ มี “ปุ่มนิวเคลียร์” อยู่บนโต๊ะทำงาน พร้อมกดทุกเมื่อหากถูกสหรัฐฯ คุกคาม แต่ยังคง “เปิดโอกาสเจรจา” กับเกาหลีใต้
หลังโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์โสมแดงโหมกระพือความตึงเครียดระหว่างเปียงยางกับวอชิงตันมาตลอด 1 ปีเต็ม ล่าสุด ผู้นำคิมได้ถือโอกาสวันขึ้นปีใหม่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี และยืนยันว่า รัฐบาลของตนพร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับโซล
“ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้นั้น เราควรจะลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีลงบ้าง และสร้างบรรยากาศแห่งสันติสุขขึ้น... ทั้งเกาหลีเหนือและใต้ต่างต้องพยายามด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย” คิม กล่าว
ผู้นำวัยหนุ่มระบุด้วยว่า อาจจะพิจารณาส่งนักกีฬาโสมแดงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองเปียงชางของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ. นี้
“การมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือในมหกรรมกีฬาฤดูหนาวถือเป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างประชาชน และเราหวังว่าการแข่งขันกีฬาครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่ของทั้งสองเกาหลีควรจะพบปะและหารือความเป็นไปได้โดยเร็วที่สุด”
ประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ ระบุว่า หากโสมแดงส่งนักกีฬาเข้าร่วมก็จะเป็นการรับรองความปลอดภัยให้แก่ “เปียงชางเกมส์” และยังเสนอให้เลื่อนการซ้อมรบกับสหรัฐฯ ออกไปก่อนจนกว่าเกมกีฬาจะสิ้นสุด
ผู้นำคิมเตือนว่า แทนที่จะสนับสนุนมาตรการของสหรัฐฯ “ซึ่งคุกคามความมั่นคงและสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” รัฐบาลเกาหลีใต้ควรตอบสนองการทาบทามของเปียงยางมากกว่า
ล่าสุด โฆษกของประธานาธิบดี มุน ระบุว่า พวกเขายังอยู่ระหว่างพิจารณาถ้อยคำในสุนทรพจน์ปีใหม่ของผู้นำคิม
ผู้สื่อข่าวในสหรัฐฯ ได้สอบถามประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าคิดอย่างไรกับถ้อยแถลงของผู้นำคิม ซึ่งเจ้าตัวตอบเพียงว่า “เดี๋ยวก็รู้ เดี๋ยวก็รู้” ก่อนจะเดินหายเข้าไปในงานฉลองปีใหม่ที่รีสอร์ตสุดหรู มาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ยังไม่แสดงความคิดใดๆ เกี่ยวกับสาส์นปีใหม่ของผู้นำคิม
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป (ICBM) และทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ โดยไม่แคร์ทั้งคำขู่และมาตรการคว่ำบาตร
หลังจากประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธ ICBM ที่อ้างว่าสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปถล่มเป้าหมายได้ทุกแห่งในสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือน พ.ย. ผู้นำคิมก็ประกาศทันทีว่า กองกำลังนิวเคลียร์โสมแดงนั้น “สมบูรณ์แบบ” แล้ว
สุนทรพจน์ปีใหม่ของ คิม ยังคงเน้นโอ้อวดแสนยานุภาพนิวเคลียร์เหมือนเคย โดยระบุว่า เกาหลีเหนือจะมุ่งมั่น “ผลิตหัวรบนิวเคลียร์และขีปนาวุธจำนวนมากๆ เพื่อนำมาใช้งานจริง” ในปี 2018 และนั่นจะทำให้สหรัฐอเมริกา “ไม่กล้าประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือ”
“แผ่นดินสหรัฐอเมริกาทั้งหมดอยู่ในพิสัยโจมตีของอาวุธนิวเคลียร์ของเรา และปุ่มนิวเคลียร์ก็อยู่บนโต๊ะทำงานผมเสมอ นี่คือ ความจริง ไม่ใช่คำขู่” คิมกล่าว พร้อมกับเน้นว่า “อาวุธเหล่านี้จะถูกใช้ก็ต่อเมื่อความมั่นคงของเราถูกคุกคามเท่านั้น”
ผู้สังเกตการณ์ต่างเฝ้ารอฟังสุนทรพจน์ปีใหม่ของผู้นำคิม เพื่อดูว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ หรือไม่ในช่วง 1 ปีที่จะมาถึง
นอกจากสาธยายความสำเร็จในด้านการทหารแล้ว ผู้นำคิมยังเอ่ยถึงผลประโยชน์ที่เกาหลีเหนือได้รับจากนโยบาย 2 ทาง ซึ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจและการทหารควบคู่กัน
คิม ชี้ว่า แม้จะถูกต่างชาติรุมคว่ำบาตรอย่างหนักเพื่อกดดันให้ยุติโครงการอาวุธ แต่อุตสาหกรรมในเกาหลีเหนือยังคงเติบโตทั้งในด้านการผลิตสิ่งทอ รองเท้า และรถแทร็กเตอร์
สก็อตต์ ลาฟอย นักวิเคราะห์ขีปนาวุธจากเว็บไซต์ NK Pro ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของโสมแดง ระบุว่า ถึงแม้ คิม จะอวดว่าโครงการอาวุธประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แต่เชื่อว่าเขาจะยังไม่หยุดเดินหน้าทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เสียทีเดียว
ด้าน นัม ซุงวุก ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยเกาหลีในกรุงโซล ให้ความเห็นคล้ายๆ กันว่า คิม อาจจะชะลอการทดสอบอาวุธลงบ้าง อย่างน้อยก็ในช่วงก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาว
“สิ่งที่เกาหลีเหนือกลัวมากที่สุด ก็คือ การถูกประชาคมโลกลืม... ถ้าไม่ยิงขีปนาวุธหรือทดสอบนิวเคลียร์เสียบ้าง เกาหลีเหนือก็จะได้รับความสนใจเมื่อเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกส์ฤดูหนาวเท่านั้น”