รอยเตอร์ - เหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านยืดเข้าสู่วันที่ 3 และลุกลามไปในหลายเมืองทั่วประเทศเมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) โดยเกิดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมซึ่งบุกเข้าไปทำลายอาคารสถานที่ราชการบางแห่ง ขณะที่ภาครัฐเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มสื่อ-อินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการปลุกระดม
กระแสประท้วงซึ่งเริ่มมาจากความไม่พอใจปัญหาเศรษฐกิจและการทุจริตคอร์รัปชันได้ยกระดับเป็นการก่อจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุด ถัดจากเมื่อปี 2009 ซึ่งชาวอิหร่านออกมาต่อต้านผลการเลือกตั้งซึ่งทำให้ประธานาธิบดี มะห์มูด อาห์มาดิเนจัด ได้รั้งตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2
เมื่อวานนี้ (30) รัฐบาลอิหร่านได้จัดกิจกรรมทั่วประเทศเพื่อรำลึกถึงเหตุจลาจลเมื่อปี 2009 ซึ่งกองกำลังความมั่นคงสามารถปราบปรามลงได้ และมีประชาชนจำนวนไม่น้อยออกมาแสดงพลังสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลทั้งที่กรุงเตหะรานและมัชฮาด (Mashhad) ซึ่งเป็นนครใหญ่อันดับ 2 ของอิหร่าน
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่านรายงานว่า มีการชุมนุมเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเกิดขึ้นใน 1,200 เมืองทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันก็มีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นเพิ่มเติมในอีกหลายเมือง โดยเฉพาะที่กรุงเตหะรานซึ่งผู้ประท้วงได้ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลและขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่รอบๆ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลปักหลักอยู่ไม่ไกลกัน
สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากเมืองโดรูด (Dorud) ซึ่งเป็นภาพชายหนุ่ม 2 คนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นในสภาพโชกเลือด โดยเสียงผู้บรรยายในคลิปอ้างว่าพวกเขาถูกตำรวจปราบจลาจลยิงเสียชีวิต และมีเสียงผู้ประท้วงคนอื่นๆ ตะโกนว่า “ผมจะฆ่าใครก็ตามที่ฆ่าพี่น้องของผม” แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคลิปนี้เป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอจากเมืองมัชฮาดเป็นภาพกลุ่มผู้ประท้วงช่วยกันพลิกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ตำรวจจนคว่ำและจุดไฟเผา
สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่ามีนักศึกษาราว 70 คนรวมตัวกันที่หน้ามหาวิทยาลัยเตหะรานและขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ พร้อมกับตะโกนว่า “เผด็จการไปตายเสีย” ขณะที่ชาวเน็ตแชร์คลิปตำรวจถือกระบองไล่ตีกลุ่มผู้ประท้วงที่เดินขบวนอยู่บนถนนใกล้ๆ กัน และมีบางรายถูกจับกุม
ตำรวจยังได้สั่งปิดสถานีรถไฟใต้ดิน 2 แห่งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงหลั่งไหลเข้ามาเพิ่ม
ที่กรุงเตหะรานและเมืองการาจ (Karaj) ซึ่งอยู่ทางตะวันตก ผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปทุบกระจกอาคารของรัฐหลายแห่ง และนำเศษวัสดุมาจุดไฟเผาบนท้องถนน
พลจัตวา เอสมาอีล เกาซารี รองผู้บัญชาการฝ่ายความมั่นคงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองหลวงได้แล้ว และฝากเตือนไปยังผู้ประท้วงว่าจะต้องเจอ “กำปั้นเหล็ก” หากไม่หยุดก่อความวุ่นวาย
“ผู้ที่ออกมาเดินขบวนเพราะไม่พอใจที่สินค้าราคาแพงไม่ควรป่าวร้องสโลแกน (ต่อต้านรัฐบาล) แบบนั้น และยิ่งไม่สมควรเผารถยนต์หรือทรัพย์สินสาธารณะ” เกาซารี ให้สัมภาษณ์กับ ISNA
สหรัฐฯ ประณามการจับกุมผู้ประท้วงในอิหร่าน โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความว่า “ทั่วโลกเข้าใจว่าประชาชนคนดีทั้งหลายในอิหร่านต้องการความเปลี่ยนแปลง และรู้ด้วยว่านอกจากแสนยานุภาพอันเกรียงไกรของสหรัฐฯ แล้ว สิ่งที่คณะผู้นำอิหร่านกลัวที่สุดก็คือ ประชาชน”
สื่อรัฐบาลอิหร่านได้เผยแพร่คำแถลงจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ บาห์รัม กอสเซมี ซึ่งตอบโต้เสียงวิจารณ์ของ ทรัมป์ ว่า “ชาวอิหร่านไม่เห็นคุณค่าในคำพูดฉวยโอกาสของเจ้าหน้าที่อเมริกันและคุณทรัมป์”
รัฐบาลอิหร่านยังเริ่มใช้มาตรการควบคุมข่าวสารและตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันการปลุกระดม
พาเวล ดูรอฟ ผู้บริหาร “เทเลแกรม” ซึ่งเป็นแอปฯ ส่งข้อความที่มีผู้ใช้ราว 40 ล้านคนในอิหร่าน ยอมรับว่าบริษัทได้ทำการบล็อกแชนแนล “อามัดนิวส์” เมื่อวานนี้ (30) หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงโทรคมนาคมอิหร่านกล่าวหาว่าสื่อดังกล่าวยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง
