รอยเตอร์ - ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้ระบุวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่าไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือนำเงินที่บริษัทเกาหลีใต้จ่ายเป็นค่าแรงลูกจ้างโสมแดงในนิคมอุตสาหกรรมแกซองไปใช้พัฒนาอาวุธ
ผลการสอบสวนของคณะผู้ตรวจสอบซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงการรวมชาติ ถือเป็นการหักล้างข้อมูลของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดก่อนที่อ้างว่า ค่าแรงลูกจ้างโสมแดงในนิคมอุตสาหกรรมแกซองส่วนใหญ่ถูกนำไปอุดหนุนโครงการนิวเคลียร์และพัฒนาขีปนาวุธ
รัฐบาลโซลยังใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลในการถอนตัวจากนิคมอุตสาหกรรมร่วม หลังจากที่เปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน ก.ค. หรือหลังจากที่ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ชนะเลือกตั้งเพียง 2 เดือน เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้คนหนึ่งได้ออกมายอมรับว่า ข้อกล่าวหานั้นไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นรองรับ
บริษัทเกาหลีใต้ 120 แห่งได้เข้าไปตั้งฐานการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแกซองซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือราว 10 กิโลเมตร โดยแรงงานโสมแดง 55,000 คนได้รับค่าจ้างประมาณ 2 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
นิคมอุตสาหกรรมแกซองเป็นหนึ่งในผลสัมฤทธิ์จากนโยบาย “ซันไชน์” ซึ่งริเริ่มในสมัยของอดีตประธานาธิบดี คิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ในทศวรรษที่ 1990 เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเกาหลี นโยบายผ่อนปรนที่ว่านี้ยังนำไปสู่การจัดประชุมซัมมิตครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดี คิม แด-จุง และผู้นำ คิม จอง อิล ในปี 2000
เขตอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แทนความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้อย่างสุดท้ายที่เหลืออยู่ ก่อนที่มันจะปิดตัวลงในปี 2016
คณะผู้ตรวจสอบชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ต้องยุติลงกะทันหันเพียง 1 วันหลังจากที่โสมแดงยิงขีปนาวุธ เนื่องจากอดีตประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ได้ออกมา “พูดและตัดสินใจฝ่ายเดียว” โดยไม่ปรึกษาหารือกับคนในรัฐบาลก่อน
“ทำเนียบประธานาธิบดีอ้างเหตุผลหลักๆ ว่าค่าแรงคนงานถูกนำไปใช้พัฒนาอาวุธ โดยปราศจากข้อมูลที่หนักแน่น หลักฐานที่ชัดเจน และการปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแค่คำบอกเล่าของผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือที่ขาดความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือ” คิม จองซู หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบแถลงต่อสื่อมวลชน
“ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจ (ของอดีตประธานาธิบดี) จึงขาดความชอบธรรม บั่นทอนโอกาสที่เราจะฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมร่วมในอนาคต และยังลิดรอนสิทธิของบริษัทเกาหลีใต้ที่จะปกป้องทรัพย์สินของตน เนื่องจากกระบวนการถอนตัวที่เป็นไปอย่างรีบร้อน”
มุน ให้สัญญาว่าจะเปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซองอีกครั้ง หากกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือมีความคืบหน้า ทว่าความตึงเครียดทางการเมืองและท่าทีเฉยชาของเปียงยางทำให้ มุน ไม่อาจจะผลักดันแผนปรองดองได้ถนัดนัก


