xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ คว่ำบาตร 2 นักวิทย์โสมแดงผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ “ขีปนาวุธข้ามทวีป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ฮวาซอง-15 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของเกาหลีเหนือ ขณะกำลังพุ่งออกจากฐานยิง เมื่อวันที่ 29 พ.ย.
รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ 2 รายที่มีบทบาทสำคัญต่อโครงการพัฒนาขีปนาวุธเมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) ในขณะที่รัสเซียรับอาสาเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและเปียงยาง

บทลงโทษล่าสุดถือเป็นความพยายามอีกขั้นของสหรัฐฯ ที่จะบีบคั้นเกาหลีเหนือ หลังจากอีกฝ่ายดื้อดึงต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติตลอดมา และตั้งเป้าพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่จะสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์มาถล่มดินแดนสหรัฐฯ ได้

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่โสมแดง 2 คนที่จะถูกคว่ำบาตร ได้แก่ คิม จองซิก และ รี พยองชอล โดย คิม เป็นบุคลากรคนสำคัญที่ช่วยปรับปรุงจรวดเกาหลีเหนือจากการใช้เชื้อเพลิงเหลวมาเป็นเชื้อเพลิงแข็ง ส่วน รี นั้นมีบทบาทด้านการพัฒนาขีปนาวุธ ICBM

“กระทรวงการคลังกำลังพุ่งเป้าไปยังหัวหน้าโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการบีบคั้นขั้นสูงสุดเพื่อโดดเดี่ยวโสมแดง และทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบ” สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง

บทลงโทษซึ่งให้ผลในเชิงสัญลักษณ์เสียมากกว่าจะทำให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ที่บุคคลทั้งสองอาจมีอยู่ในสหรัฐฯ ถูกอายัด และห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับพวกเขา

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22) องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้มีมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีกครั้งเพื่อตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธ “ฮวาซอง-15” เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งเปียงยางอ้างว่าทำให้ดินแดนภาคพื้นทวีปของสหรัฐฯ ทุกแห่งตกอยู่พิสัยโจมตีของหัวรบนิวเคลียร์

คำสั่งของยูเอ็นจะทำให้เกาหลีเหนือเข้าถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและน้ำมันดิบได้น้อยลง และยังปิดกั้นเงินทุนที่เปียงยางเคยได้รับจากการส่งพลเมืองไปทำงานในต่างประเทศ

โสมแดงประณามมติยูเอ็นว่าไม่ต่างกับการ “ประกาศสงคราม” และปิดกั้นเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือโดยสิ้นเชิง

การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าจะเกิดการสู้รบครั้งใหม่ขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งถ้าว่ากันในทางเทคนิคแล้วก็ยังอยู่ในภาวะสงคราม เนื่องจากสงครามเกาหลีในช่วงปี 1950-53 ถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิง และยังไม่มีการทำข้อตกลงสันติภาพ
สหรัฐฯ ขู่พร้อมพิจารณาทุกทางเลือกเพื่อจัดการกับภัยคุกคามเกาหลีเหนือ ไม้เว้นแม้แต่การใช้กำลังทางทหารเข้าสยบ แต่ยังหวังว่าวิธีเจรจาทางการทูตจะใช้ได้ผล
รี พยองชอล (ซ้าย) และ คิม จองซิก สองเจ้าหน้าที่ผู้มีบทบาทสำคัญต่อโครงการพัฒนาขีปนาวุธเกาหลีเหนือ
รัสเซียนั้นเรียกร้องมานานให้สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือหันหน้าพูดคุยกัน และเมื่อวานนี้ (26) ก็ได้ขันอาสารับบทคนกลาง หากวอชิงตันและเปียงยางเต็มใจให้ช่วย

“เรามีความพร้อมแน่นอนที่จะช่วยปูทางไปสู่การลดความขัดแย้ง” ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัสติน ฮิกกินส์ ยืนยันว่า วอชิงตัน “สามารถสื่อสารกับเกาหลีเหนือผ่านช่องทางการทูตหลายอย่าง” อยู่แล้ว

“เราอยากให้รัฐบาลเกาหลีเหนือเข้าใจด้วยว่า ยังมีเส้นทางอื่นที่พวกเขาสามารถเลือกได้ และขึ้นอยู่กับพวกเขาเองว่าจะยอมเปลี่ยนแปลงและกลับสู่วงเจรจาที่น่าเชื่อถือหรือไม่”

เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (26) โดยเตือนว่า “คำพูดข่มขู่ของสหรัฐฯ” รวมถึงการขยายบทบาททางทหารในภูมิภาคมีแต่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียด และเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ริเริ่มกระบวนการเจรจาโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ใช้ “ภาษาคว่ำบาตร” กับเกาหลีเหนือแล้ว

กระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้คาดการณ์เมื่อวานนี้ (26) ว่าโสมแดงคงจะยื่นข้อเสนอเจรจากับสหรัฐฯ ภายในปีหน้า ขณะเดียวกันก็ยังต้องการให้นานาชาติยอมรับพวกเขาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์

สหรัฐฯ ย้ำว่าทุกประเทศ โดยเฉพาะรัสเซียและจีนซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของเกาหลีเหนือ จะต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างจริงจัง รวมถึงจำกัดการส่งน้ำมันให้โสมแดงด้วย

ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนพบว่า ปักกิ่งไม่ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันให้แก่เกาหลีเหนือเลยในเดือน พ.ย. ซึ่งเกินกว่าเงื่อนไขคว่ำบาตรที่ยูเอ็นประกาศเมื่อต้นปีนี้ ทั้งยังไม่ได้นำเข้าแร่เหล็ก ถ่านหิน หรือตะกั่วจากเกาหลีเหนือมาเป็นเวลา 2 เดือนเต็มๆ

รัฐบาลจีนไม่เคยเปิดเผยข้อมูลน้ำมันดิบที่ส่งออกให้เกาหลีเหนือมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมระบุว่าจีนยังคงส่งน้ำมันราวๆ 520,000 ตัน หรือ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อปีเข้าไปยังรัฐโสมแดงผ่านท่อส่งน้ำมันที่ใช้งานมายาวนาน

เกาหลีเหนือยังนำเข้าน้ำมันบางส่วนจากรัสเซียด้วย
ูผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือแสดงท่าทีดีอกดีใจ หลังการทดสอบขีปนาวุธ ฮวาซอง-15 ประสบความสำเร็จตามเป้า
กำลังโหลดความคิดเห็น