เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงจำนวนมากกว่า 1,000 คน ที่ไม่พอใจคำสั่งการปล่อยตัวอดีตผู้นำเปรู อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ในวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลในวันที่ 2 ของการประท้วงกลางกรุงลิมา ถูกพบมีการใช้แก๊สน้ำตาขับไล่ผู้ประท้วง
DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้ (26 ธ.ค.) ว่า ประชาชนชาวเปรูจำนวนมากไม่พอใจต่อการตัดสินที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ (24) ต่อการปล่อยตัวอดีตประธานาธิบดีเปรู อัลแบร์โต ฟูจิโมริ วัย 79 ปี ที่ต้องรับโทษในเรือนจำนาน 25 ปี ในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยประชาชนต่างเรียกผู้นำเปรูคนปัจจุบันที่ใช้อำนาจอภัยโทษโมริว่า “เป็นพวกทรยศ”
ความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ประท้วงเกิดขึ้นบนท้องถนนกลางกรุงลิมาเป็นวันที่ 2 พบว่า ประชาชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คนรวมตัว และมีจำนวนหลายสิบคนที่ยืนอยู่บริเวณทางเท้าถูกแก๊สน้ำตาของทางเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้ในการขับไล่ฝูงชน
โดยภาพที่เปิดเผยทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นถึงความโกรธแค้นของกลุ่มผู้ประท้วงผ่านเสียงสโลแกนต่อต้านประณามประธานาธิบดีเปรู เปโดร พาโบล คุชซินสกี (Pedro Pablo Kuczynski)
ซึ่งนอกเหนือจากโทษในคดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้วอดีตผู้นำเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นยังถูกตัดสินในความผิดคอร์รัปชัน ซึ่งในส่วนความผิดละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ยังรวมไปถึงการออกคำสั่งให้ประหารชีวิตนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม
สื่อเยอรมัน ชี้ว่า การออกมาให้อภัยโทษฟูจิโมริของคุชซินสกี บรรดานักการเมืองฝ่ายค้านเปรูต่างเรียกการให้อภัยว่า “เป็นข้อตกลงแลกเปลี่ยนทางการเมือง” ซึ่งในวันพฤหัสบดี (21) รัฐสภาเปรูล้มเหลวในการที่จะยื่นถอดถอนต่อผู้นำเปรูคนปัจจุบันในข้อหาคอร์รัปชัน เกิดขึ้นหลังจากที่บุตรชายฟูจิโมริ คือ เคนจิ (Kenji) และนักการเมืองคนอื่นๆพากันถอนการสนับสนุน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี คุชซินสกี ได้ให้เหตุผลการอภัยโทษฟูจิโมริ ว่า เกิดขึ้นจากการที่สภาพในเรือนจำนั้นโหดร้ายเกินกว่าที่อดีตผู้นำวัย 79 ปี ที่ล้มป่วยด้วยโรคเรื้อรังมาเป็นเวลานานที่ไม่มีทางรักษา ซึ่งหากต้องทนให้ฟูจิโมริอยู่ในเรือนจำต่อไปอาจส่งผลร้ายถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต
โดยในวันอาทิตย์ (24) พบว่า ฟูจิโมริถูกรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลในอาการความผิดปกติการเต้นของหัวใจ ซึ่งในเวลานี้เขายังคงอยู่ภายในห้องหอผู้ป่วยวิกฤต แต่ทางคณะแพทย์กล่าวว่าอาการเขาดีขึ้น