เอเอฟพี -ก่อนรุ่งสางวันนี้(22 ธ.ค) พายุโซนร้อนเทมบิน(Tembin) พัดเข้าทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะมินดาเนา (Mindanao) ทางใต้ของฟิลิปปินส์ พบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย สูญหายอีก 6 ราย หลังเกิดดินถล่มใน 2 เมือง ส่วนมาราวีที่เคยถูก IS ยึดเกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งเกาะกระทบประชากรอาศัยร่วม 20 ล้านคน
เอเอฟพีรายงานวันนี้(22 ธ.ค)ว่า พายุโซนร้อนเทมบิน(Tembin)พัดขึ้นฝั่งเกาะมินดาเนา (Mindanao) ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ในวันศุกร์(22)ก่อนรุ่งสาง โดยมาพร้อมกับลมกรรโชกที่มีความเร็ว 125 ก.ม/ช.ม นำเอาฝนตกหนักเข้ามาในพื้นที่ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์แถลง
“เราบังคับให้ประชาชนจำนวนหลายร้อยต้องอพยพในบางหมู่บ้าน แต่พบว่าน้ำเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว และทางทีมกู้ภัยของเราไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่อื่นๆได้” ซารีปาดา ปาคาซัม(Saripada Pacasum) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันภัยพลเรือนประจำจ. ลาเนาเดลซูร์ (Lanao del Sur) ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด กล่าวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันนี้(22)
ซึ่งพบว่าจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของฟิลิปปินส์ ทำให้ในแต่ละปี มะนิลาต้องพบกับพายุและไต้ฝุ่นโดยเฉลี่ย 20 ลูก แต่กลับพบว่า เกาะมินดาเนาที่อยู่ทางใต้นั้น มีน้อยครั้งมากที่จะถูกพายุไซโคลนพัดเข้าสร้างความเสียหาย
และการเข้ามาของพายุโซนร้อนเทมบิน ทำให้เกิดดินถล่มขึ้นแต่ไม่ร้ายแรง ฝังบ้านเรือนไม่กี่หลังในเมืองตูกายา( Tugaya) และทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 2 ราย และสูญหายอีก 5 ราย ซึ่งเชื่อว่าอาจยังคงติดอยู่ใต้ซาก ปาคาซัมกล่าวต่อ
ในขณะที่ในเมืองวาเลนเซีย (Valencia)พบบ้าน 4 หลังถูกฝังใต้ดินถล่ม สังหารหญิงชราไป 1 คน เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือน จุนเรย์ วาเลโฮ(Junrey Vallejo) เปิดเผย ซึ่งทางหน่วยงานกู้ภัยฟิลิปปินส์ต้องใช้เครื่องจักรหนักในการขุดเพื่อค้นหาเด็กหญิงรายหนึ่งซึ่งยังคงสูญหายในเวลาช่วงบ่ายวันนี้(22) วาเลโฮเสริมต่อ
ทั้งนี้พบว่าทั้งตำรวจฟิลิปปินส์และหน่วยป้องกันภัยพลเรือนต่างรายงานถึงปัญหาน้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่กี่เมืองของเกาะมินดาเนา ในขณะที่พายุเทมบินได้อ่อนตัวลง และเดินหน้าอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งพื้นที่ในเขตนี้
โดยภาพถ่ายทางโลกโซเชียลมีเดียที่ทางกู้ภัยฟิลิปปินส์ถ่ายไว้ได้ แสดงให้เห็นถึงสภาพน้ำสีน้ำตาลข้นขลักท่วมถนนไฮเวย์ในจ.ลาเนาเดลซูร์ รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชน และรถตู้ ส่วนประชาชนในพื้นที่ต่างพยายามขึ้นที่สูง เช่นหลังคา เพื่อหนีน้ำ
ปาคาซัมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนประจำจังหวัดเปิดเผยต่อว่า ในบรรดาพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ รวมไปถึงเมืองมาราวี ที่เพิ่งฟื้นจากการสู้รบนานร่วม 5 เดือนระหว่างกลุ่มก่อการร้าย IS และกองทัพฟิลิปปินส์
เอเอฟพีชี้ว่า ตำรวจฟิลิปิปนส์รายงานว่า เมืองคากายัน เด โอโร( Cagayan de Oro) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะมินดาเนาประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันด้วยเช่นกัน และพบมีกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดเป็นวงกว้างบนเกาะทางใต้แห่งนี้