รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - วันนี้(18 ธ.ค) บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์ช้างของไทย ชนะการประมูลหลังทุ่มเม็ดเงิน 4.84 พันล้านดอลลาร์ เข้าช้อนซื้อหุ้น 54% ของเบียร์ซาเบโก( Sabeco)บริษัทเบียร์เวียดนาม บริษัทไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ กิจการน้ำเมาของรัฐบาลเวียดนามที่ถูกสั่งแปรรูป กลายเป็นการประมูลครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์ตั้งแต่ที่เคยมีมา
รอยเตอร์รายงานวันนี้(18 ธ.ค)ว่า บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่รู้จักในนามบริษัทผู้ผลิตเบียร์ช้างกลายเป็นผู้ซื้อรายเดียวที่ชนะการประมูลเบียร์เจ้าดังในตลาดเวียดนาม บริษัทเบียร์ซาเบโก( Sabeco) หรือที่รู้จักในนาม "บริษัทเบียร์เวียดนามไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ"
ซึ่งการประมูลในวันจันทร์(18)พบว่าไทยเบฟได้ทำผ่านทางบริษัทลูกที่อยู่ในเวียดนาม บริษัทเวียดนาม เบฟเวอเรจ โคลิมิตเต็ด(Vietnam Beverage Co Ltd) โดยพบว่าทางบริษัทสามารถเข้าถือหุ้นจำนวน 54% มูลค่าโดยรวม 4.84 พันล้านดอลลาร์ของบริษัทเบียร์ซาเบโกสำเร็จ
ในช่วงค่ำวันอาทิตย์(17)พบว่า ไทยเบฟได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า บริษัทที่มีความเกี่ยวพันทางอ้อมกับทางบริษัทไทยเบฟได้ยื่นขอจดทะเบียนในการเข้าร่วมการประมูล
ทั้งนี้พบว่าบริษัทเวียดนามเบฟนั้นมีบริษัทการลงทุน เวียดนาม เอฟแอนด์บี อัลไลแอนซ์ อินเวสต์เมนต์( Vietnam F&B Alliance Investment) เป็นเจ้าของ ซึ่งหุ้น 49% ของบริษัทนั้นมีเจ้าของคือบริษัทเบียร์โค ลิมิตเต็ด(BeerCo Limited) ซึ่งถึงเป็นทางอ้อม แต่ทว่าทั้งยูนิตนี้มีไทยเบฟเป็นเจ้าของทั้งหมด อ้างอิงจากเอกสารทางการของบริษัท
รอยเตอร์รายงานต่อว่า รัฐบาลโฮจิมินที่เป็นเจ้าของบริษัทเบียร์ซาเบโกได้กำหนดราคาขายอย่างต่ำอยู่ที่ 320,000 เวียดนามด่ง หรือราว 14.1 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งพบว่าราคาหุ้นของบริษัทไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ (ซาเบโก)ในวันจันทร์(18) อ้างอิงจากสื่อธุรกิจบลูมเบิร์กเพิ่มไป 2.8 เท่า ไปอยู่ที่ 317,900 เวียดนามด่ง
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ไทยเบฟที่มีเจ้าของคือ เจริญ สิริวัฒนภักดี มีเป้าหมายยุทธศาสตร์ในการควบรวมซาเบโกมานานแล้วเพื่อต้องการขยายฐานกิจการน้ำเมาจากไทยไปยังต่างแดน แหล่งข่าวให้ความเห็น บลูมเบิร์กชี้ว่า ไทยเบฟตั้งเป้าต้องการเพิ่มรายได้ให้เกิน 50% จากธุรกิจนอกประเทศให้ได้ภายในสิ้นปี 2020
ทั้งนี้พบว่า บริษัทเบียร์ซาเบโกนั้นก่อนหน้าถูกกำหนดให้มีเจ้าของเป็นต่างชาติได้สูงสุดไม่เกิน 49% ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาหุ้น 10% อยู่ในมือของต่างชาติ ส่งผลทำให้หุ้นที่เหลืออีก 39% นั้นถูกวางอยู่บนโต๊ะสำหรับผู้ซื้อต่างแดนในการประมูลวันนี้(18)
ซึ่งผู้ประมูลสัญชาติเวียดนามสามารถเข้าประมูลของหุ้นส่วนใหญ่ที่เหลือราว 54% โดยไฮเนเก้นถืออยู่ 5% รอยเตอร์ชี้