เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมอนุมัติงบประมาณกลาโหมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.49 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2018 เพื่อเตรียมรับมือภัยคุกคามนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ รายงานเผยวันนี้ (16 ธ.ค.)
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมตั้งวงเงินสำหรับการป้องกันประเทศเอาไว้สูงถึง 5.19 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2018 ซึ่งจะเริ่มในเดือน เม.ย. ถือเป็นการเพิ่มงบกลาโหมปีที่ 6 ติดต่อกัน
งบกลาโหมญี่ปุ่นประจำปีงบประมาณปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 5.12 ล้านล้านเยน
วงเงินส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นจะถูกนำไปจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อปกป้องแดนอาทิตย์อุทัยจากขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์โสมแดง ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดจนมีประสิทธิภาพร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
งบประมาณในส่วนนี้จะถูกใช้เพื่อเตรียมการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดิน เอจิส อะชอร์ (Aegis Ashore) ของสหรัฐฯ ด้วย
สัปดาห์ที่แล้ว อิตสึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยว่ารัฐบาลมีแผนจัดซื้อขีปนาวุธร่อนซึ่งมีพิสัยเดินทางประมาณ 900 กิโลเมตรจากบริษัทของสหรัฐฯ
โครงการจัดซื้อขีปนาวุธพิสัยไกลนี้คาดว่าจะเป็นที่ถกเถียงพอสมควร เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพได้กำหนดห้ามญี่ปุ่นใช้ปฏิบัติการทางทหารแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ
กิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่ทั่วโลกหวั่นวิตกมากขึ้นในปีนี้ และวอชิงตันได้เรียกร้องให้สมาชิกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตัดสัมพันธ์กับเปียงยางเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อระบอบคิม
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่สามารถโน้มน้าวจีนซึ่งเป็นมหามิตรของโสมแดง รวมถึงรัสเซีย ให้เห็นดีเห็นงามไปกับการโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ