เอเจนซี – อดีตประธานสภาอินโดนีเซีย “เชตยา โนวานโต” ต้องเดินขึ้นศาลคดีรับสินบนเป็นนาฬิกาหรูยี่ห้อ ‘ริชาร์ มิลล์’ มูลค่า 4.4 ล้าน กับ เงินราว 240 ล้านบาท หลังพบพัวพันคดีคอร์รัปชันบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ปี 2552 แต่ยังเล่นแง่ปิดปากไม่ให้การใดๆ ชี้โทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมาเว็บไซต์สเตรทไทมส์รายงานว่า นายเชตยา โนวานโต อดีตประธานสภาผู้แทนของอินโดนีเซียซึ่งถูกดำเนินคดีคอร์รัปชัน โดยรับเงินสินบนอย่างน้อย 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 240 ล้านบาท) อันเป็นเงินกินเปล่าจากโครงการบัตรประจำตัวที่ผสานการตรวจพิสูจน์บุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2552
อัยการของอินโดนีเซียระบุว่า มีหลักฐานที่โนวานโตวัย 62 ได้รับเงินสินบนผ่านบัญชีของธนาคารในอินโดนีเซีย และในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ทั้งยังมีหลักฐานด้วยว่าเขาได้รับนาฬิกาหรูยี่ห้อ ริชาร์ด มิลล์ มูลค่าราว 135,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 4.4 ล้านบาท) เพื่อตอบแทนจากการที่เขาการันตีว่าโครงการจะได้ผ่านการรับรองของสภา โดยโทษสูงสุดของคดีนี้อาจทำให้โนวานโตต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต
จากการปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษา ระหว่างการขึ้นศาลเขตจาการ์ตากลาง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค. นักการเมืองซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรคโกการ์ยังคงปากแข็ง ด้วยการปฏิเสธที่จะยืนยันชื่อและสถานที่เกิดของตัวเอง โดยเพียงแต่โก่งตัวบอกกับผู้พิพากษาในศาลว่า “ผมท้องเสียมา 5 วันแล้ว”
มัคดีร์ อิสมาอิล ทนายของโนวานโตแจ้งว่า ลูกความของเขามีอาการป่วยจนไม่สามารถรับการพิจารณาคดีในวันนี้ได้ ก่อนที่อัยการจะแย้งว่า แพทย์เพิ่งทำการตรวจร่างกายของโนวานโตไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้และยืนยันว่าเขาแข็งแรงดี
ด้านผู้พิพากษาอนุญาตให้มีการเลื่อนการพิจารณาคดีในช่วงเช้าของวันพุธ และยอมให้โนวานโตไปตรวจร่างกายกับแพทย์อีกครั้ง ก่อนที่แพทย์จะยืนยันว่าเขาร่างกายแข็งแรงดี ทำให้ในช่วงบ่ายอดีตนักการเมืองอินโดนีเซียต้องกลับมาขึ้นศาล ทว่า ยังปฏิเสธที่ตอบคำถามใดๆ
เฟบริ ดิอานชะห์ โฆษกของคณะกรรมการปราบปรามการคอร์รัปชันของอินโดนีเซียให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า พฤติกรรมของโนวานโตในศาลอาจทำให้เขาถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของอินโดนีเซียก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การดื้อแพ่งไม่ตอบคำถามใดๆ ของโนวานโตอาจเป็นการเพิ่มปัญหาให้ตัวเขาเอง และกระบวนการยุติธรรมก็สามารถดำเนินไปต่อได้
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน โนวานโตถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามการคอร์รัปชันของอินโดนีเซียควบคุมตัว และตั้งข้อหาว่าเขาอาจมีความเกี่ยวพันกับการยักยอกเงินราว 5,500 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับโครงการบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KTP โดยก่อนที่จะถูกควบคุมตัว โนวานโตเล่นแง่ไม่ไปให้การใดๆ กับ คณะกรรมการปราบปรามการคอร์รัปชันของอินโดนีเซียอยู่หลายเดือน โดยอ้างว่าตัวเองป่วยและต้องเข้าผ่าตัดหัวใจ
เดือนที่แล้ว โนวานโตประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และต้องเข้ารับการรักษาโดยใส่เฝือกในโรงพยาบาล ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่โรงพยาบาล และส่งตัวจากโรงพยาบาลไปยังสถานควบคุมตัวของหน่วยงานปราบปรามการคอร์รัปชัน ขณะที่การพัวพันกับคดีนี้ทำให้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน โนวานโตต้องก้าวลงจากการเป็นประธานพรรคโกการ์ ซึ่งถือเป็นพรรคใหญ่อันดับสองในสภา และยังต้องลาออกจากตำแหน่งประธานสภาเมื่อวันจันทร์ (11) ที่ผ่านมาอีกด้วย
