xs
xsm
sm
md
lg

In Clips:ทำเนียบขาว “ปกปิด” ตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ทำเนียบขาวปฎิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน ในรายงานประจำครึ่งปีเสนอให้สภาคองเกรสเมื่อวานนี้(11 ธ.ค) ต่างจากรายงานที่ส่งให้เมื่อมิถุนาฯล่าสุด ชี้ทรัม์กลัวการเปิดเผยอาจกลายเป็นข้อมูลให้กลุ่มติดอาวุธ และศัตรูสหรัฐฯ

ยาฮูนิวส์รายงานวันนี้(12 ธ.ค)ว่า ในรายงานประจำทุก 6 เดือนของทำเนียบขาวที่ส่งไปยังสภาคองเกรสในวันจันทร์(11) ไม่มีการระบุลงไปในรายละเอียดถึงตัวเลขจำนวนกองกำลังสหรัฐฯในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน

ซึ่งการเลือกที่จะออกมาปิดบังตัวเลขกับสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นการสะท้อนออกมาถึงแนวคิดของชุดรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนกำลังพลที่ประจำอยู่ในเขตที่มีความขัดแย้งสูงเป็นความลับ ซึ่งทางยาฮูนิวส์ชี้ว่า เกิดขึ้นในทฤษฎีที่เชื่อว่า หากเปิดเผยข้อมูลนี้ออกไป อาจเป็นเหมือนการป้อนข้อมูลให้กับกลุ่มติดอาวุธสุดโต่ง และศัตรูอื่นๆของอเมริกาที่จะได้เปรียบในทางยุทธศาสตร์ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลสหรัฐฯ

แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีเจ้าหน้าที่จากทางการทหารสหรัฐฯ สภาคองเกรส หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯต่างออกมาโต้ถึงแนวคิดที่ว่า ซึ่งมีบางส่วนชี้ว่า ความโปร่งใสจำเป็นต้องมีถึงการที่รัฐบาลสหรัฐฯใช้กำลังพลอย่างไร ซึ่งมาจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีความแน่ชัดว่า ทางทำเนียบขาวยอมเปิดเผยตัวเลขกำลังพลในต่างแดนต่อรัฐสภาสหรัฐฯในหนังสือลับหรือไม่

ยาฮูนิวส์ชี้ว่า ถือเป็นเรื่องแปลกที่จังหวะเวลาที่ทางทำเนียบขาวเลือกที่จะปิดบังตัวเลขกองกำลังใน 3 ประเทศ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเพนตากอน จากการเปิดทางของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เจมส์ แมททิส “ทำการเปิดเผยระดับของกองกำลังในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน” ซึ่งในการแถลงรายงานสรุปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในอัฟกานิสถานราว 11,000 นาย และจะส่งเข้าไปเสริมภายใต้ยุทธศาสตร์อัฟกานิสถานใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์อีก 3,000-4,000 นายในการที่จะทำสงครามรบให้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา

และพบว่าในช่วงต้นเดือนนี้ เพนตากอนได้เปิดเผยกับนักข่าวว่า มีทหารอเมริกันอยู่ในอิรักประมาณ 5,200 นาย และอีก 2,000 นายอยู่ในซีเรีย ซึ่งการเปิดเผยล่าสุดเป็นตัวเลขที่เพิ่มมาจากการเปิดเผยก่อนหน้าที่ 500 นายเท่านั้น

ทั้งนี้พบว่าภายใต้กฏหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯปี 1973 ที่ชื่อ The 1973 War Powers Resolution หรือ . รัฐบัญญัติอำนาจในการทำสงครามปี 1973 ที่จำกัดอำนาจในการทำสงครามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทางประธานาธิบดีถูกบังคับให้ต้องขออำนาจจากสภาคองเกรสในการส่งทหารใด ๆ ไปปฏิบัติการภายใน 60 วัน และอาจจะขอความเห็นชอบต่อระยะเวลาออกไปได้อีก 30 วัน โดยที่ไม่มีการประกาศสงคราม ทำให้จำเป็นต้องส่งรายงานเข้าไปยังสภาคองเกรสในทุก 6 เดือน

และกฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นเนื่องมาจากสงครามเวียดนาม ซึ่งรายงานเมื่อเดือนมิถุนายนก่อนหน้า พบว่ามีการรายงานตัวเลขตามปกติ ที่ได้เปิดเผยว่ามีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในไนเจอร์ราว 645 นาย ซึ่งอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น กองกำลังสหรัฐฯถูกซุ่มโจมตีจนทำให้มีนายทหารรบพิเศษเสียชีวิต ส่งผลกลับไปยังวอชิงตัน ซึ่งมีนักการเมืองอเมริกันบางส่วนออกมาแก้ตัวว่า ไม่ทราบว่ามีกองกำลังสหรัฐฯที่ประจำอยู่ที่นั่น ยาฮูนิวส์ชี้

โดย 6 เดือนก่อนหน้า ทำเนียบขาวเปิดเผยตัวเลขว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในอัฟกานิสถานราว 8,448 นาย ในอิรักจำนวน 5,262 นาย และในซีเรียอีก 503 นาย แต่ไม่ปรากฎการเปิดเผยในรายละเอียดในหนังสือรายงานเมื่อวานนี้(11)

ซึ่งทางสื่อยาฮูนิวส์พบถึงความเปลี่ยนแปลงจากรายงานฉบับก่อนหน้า ในเวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯประกาศว่า มีจำนวนกองกำลังสหรัฐฯอยู่เล็กน้อยปฎิบัติการอยู่ในเยเมนเพื่อสู้รบกับกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มก่อการร้าย IS แต่ไม่มีการกล่าวถึงกองกำลังสหรัฐฯในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ยังพบว่า ในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน มีการระบุถึงกองกำลังสหรัฐฯปฎิบัติการในจอร์แดนมีจำนวน 2,850 นาย แต่ในเวลานี้ลดลงเหลือ 2,300 นาย

ในขณะที่เลบานอน ไม่มีการกล่าวไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า แต่ในฉบับล่าสุดชี้ว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ราว 100 นาย ซึ่งเป็นการขอร้องของทางรัฐบาลเลบานอนในการเพิ่มสมรรถนะการสู้กับการก่อการร้าย

รายงานของทำเนียบขาวที่ส่งออกไปในวันจันทร์(11)กล่าวว่ามีกองกำลังสหรัฐฯจำนวน 800 นายถูกส่งไปยังไนเจอร์ ขึ้นมาจาก 645 นายเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า แต่ในรายงานในเดือนมิถุนายนที่มีการบอกอย่างชัดเจนถึงกองกำลังสหรัฐฯร่วม 300 นายอยู่ในแคเมอรูน แต่ทว่าในฉบับล่าสุดกลับมีการปกปิดตัวเลขไว้

นอกจากนี้การปกปิดจำนวนกองกำลังยังเกิดขึ้นกับประเทศที่อยู่ในแอฟริกากลางคือ อูกันดา ซูดานใต้ สาธารณรัฐคองโก และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งในรายงานฉบับก่อนหน้ามีการเปิดเผยตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯราว 410 นายประจำอยู่ในประเทศเหล่านี้

และพบว่าในรายงานฉบับเดือนมิถุนายน 2017 ไม่มีการเอ่ยไปถึงฟิลิปปินส์ แต่ทว่าฉบับเดือนธันวาคม รายงานชี้ว่า “มีกองกำลังหสรัฐฯที่ไม่บ่งบอกจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุนปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้ายที่นั่น”

ในตอนท้าย ยาฮูนิวส์ชี้ว่า สำหรับในอียิปต์ พบว่า จำนวนกองกำลังสหรัฐฯลดลงจาก 700 นายเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 400 นายในการรายงานล่าสุด

กำลังโหลดความคิดเห็น