รอยเตอร์ – แคลิฟอร์เนียระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่อสู้กับไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ทางด้านใต้ของรัฐ ทำให้มีผู้สังเวยชีวิตอย่างน้อย 1 คน ทำลายอาคารบ้านเรือนนับร้อยหลัง รวมทั้งทำให้ประชาชนกว่า 200,000 คนต้องทิ้งบ้านไปยังที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มีรายงานความคืบหน้าการดับไฟในหลายจุด
เช่นเดียวกับที่ซานทาอานาที่แห้งแล้ง ลมที่โหมไฟให้ลุกโชนกลับสงบลงเล็กน้อย และมีการยกเลิกคำสั่งอพยพบางพื้นที่ในเทศมณฑลเวนจูราและซานตาบาร์บารา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มควบคุมจุดที่ไฟป่าลามหนักบางแห่งได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม คำเตือนจากสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ที่คาดว่า กำลังจะมีลมกรรโชกแรงความเร็วถึง 89 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันอาทิตย์ (10 ธ.ค.) จากเดิม 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 8,700 คนที่ผจญไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วถึง 6 จุดถูกกดดันให้รีบควบคุมสถานการณ์ให้เร็วยิ่งขึ้น
เคน พิมล็อตต์ ผู้อำนวยการกรมการป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) ยอมรับว่า ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในบางจุด
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไฟป่าได้ทำลายอาคารบ้านเรือนเกือบ 800 หลัง ส่วนใหญ่อยู่ในเทศมณฑลเวนจูราที่ไฟป่า “โทมัสไฟร์” ปะทุขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ (4 ธ.ค.)
เจ้าหน้าที่เผยว่า เมื่อวันเสาร์ (10 ธ.ค.) ไฟป่าโทมัสเผาผลาญพื้นที่ไปทั้งสิ้น 148,000 เอเคอร์ หรือเท่ากับพื้นที่เมืองชิคาโก ช่วงค่ำไฟยิ่งโหมรุนแรงทางด้านเหนือของเมืองโอไฮที่เป็นที่รู้จักจากเทศกาลดนตรีคลาสสิกและสปา แต่เมืองนี้ปลอดภัยจากไฟป่า
เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการแคลิฟอร์เนียให้สัมภาษณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปัญหาไฟป่ารุนแรงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ “เหตุการณ์ปกติ” ในรัฐนี้
ไฟป่าสร้างปัญหาและอันตรายต่อชาวแคลิฟอร์เนียจากเทศมณฑลซานตาบาร์บาราลงไปตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงเม็กซิโก โดยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คนคือ เวอร์จิเนีย พีโซลา วัย 70 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันพุธ (6 ธ.ค.) จากอุบัติเหตุรถชนขณะอพยพหนีไฟป่าโทมัส
คริสโตเฟอร์ ยัง เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเทศมณฑลเวนจูรา แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของพีโซลาคือ การบาดเจ็บจากวัตถุไม่มีคม รวมทั้งสำลักควันอย่างรุนแรงและบาดเจ็บจากไฟไหม้
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บราวน์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับเทศมณฑลซานตาบาร์บารา, ซานดิเอโก, ลอสแองเจลีส และเวนจูรา เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ให้แก่แคลิฟอร์เนีย
ไฟป่าครั้งนี้คุกคามต่อทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ หลังจากเมื่อเดือนตุลาคมเพิ่งเกิดไฟป่าทางเหนือของแคลิฟอร์เนียที่ทำให้สูญเสียทรัพย์สินที่มีการประกันภัยกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ โดยไฟป่าเมื่อสองเดือนที่แล้วกระจุกตัวอยู่ในเทศมณฑลที่ทำการผลิตไวน์ และทำให้มีผู้เสียชีวิต 43 คน
สำหรับไฟป่าครั้งล่าสุดทำให้ชาวแคลิฟอร์เนียราว 212,000 คนต้องอพยพจากที่อยู่อาศัยในช่วงที่ไฟโหมรุนแรงที่สุด อย่างไรก็ดี การยกเลิกคำสั่งอพยพทำให้จำนวนประชาชนที่ต้องละทิ้งบ้านลดเหลือ 87,000 คนเมื่อวันเสาร์ และทัศนวิสัยในเวนจูราในเช้าวันเดียวกันเริ่มดีขึ้น เนื่องจากลมพัดพาควันจากฝั่งออกไปยังทะเล
เจ้าหน้าที่เผยว่า สามารถควบคุมไฟป่าในหลายพื้นที่ เช่น ไฟป่าโทมัส 15% และ 75% สำหรับไฟป่า “สเกอร์บอลล์” ในลอสแองเจลีส, 80% และ 60% ตามลำดับสำหรับไฟป่าครีกและรายในเทศมณฑลลอสแองเจลีส