เอเอฟพี - ลูกเรือประมงเกาหลีเหนือ 3 คน ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมในข้อหาลักขโมยวันนี้ (9 ธ.ค.) หลังพบว่าทรัพย์สินหลายรายการสูญหายไปจากเกาะแห่งหนึ่งที่พวกเขาล่องเรือเข้ามาอาศัยหลบพายุ
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายอยู่ในกลุ่มชาวประมงเกาหลีเหนือ 10 คนที่ยามฝั่งญี่ปุ่นไปพบเข้า ขณะติดอยู่ท่ามกลางพายุบนเรือไม้ขนาดเล็กนอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด เมื่อปลายเดือน พ.ย.
คนทั้งหมดอ้างต่อเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นว่าเป็นลูกเรือประมงเกาหลีเหนือ และได้ขอนำเรือเข้าจอดหลบภัยที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง
หลังคนกลุ่มนี้จากไปได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นก็พบว่าโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า มอเตอร์ไซค์ ผ้าห่ม จักรเย็บผ้า แผงโซลาร์เซลล์บนประภาคาร และแม้กระทั่งโปสเตอร์การ์ตูน ได้หายออกไปจากอาคารที่ทำการบนเกาะ
โฆษกสำนักงานตำรวจฮอกไกโดแถลงว่า กัปตันเรือวัย 54 ปี และลูกเรืออีก 2 รายซึ่งยอมรับว่าเป็นชาวเกาหลีเหนือ ถูกจับฐานเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้ลากเรือประมงลำนี้กลับเข้ามาใกล้ท่าเรือฮาโกดาเตะทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด และลูกเรือโสมแดงพยายามที่จะหลบหนีเมื่อวานนี้ (8) แต่ก็ไม่สำเร็จ
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้เผยภาพตำรวจญี่ปุ่นกว่า 10 นาย ลากตัวชาวประมงกลุ่มนี้ขึ้นจากเรือ ขณะที่พนักงานสอบสวนเข้าไปขนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกขโมยกลับขึ้นฝั่ง
ลูกเรือประมงที่เหลืออีก 7 คน รวมถึง 1 คนที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จะถูกส่งตัวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
แต่ละปีจะมีเรือประมงโสมแดงหลงเข้ามายังน่านน้ำญี่ปุ่นประมาณ 10 กว่าลำ ทว่า เมื่อเดือนที่แล้วยามฝั่งญี่ปุ่นตรวจพบมากกว่า 28 ลำ ซึ่งเป็นสถิติต่อเดือนสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการจดบันทึกในปี 2014
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยังสามารถช่วยชีวิตลูกเรือประมงโสมแดงไว้ได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 42 รายในปีนี้ เมื่อเทียบกับสถิติ “ศูนย์” ในปี 2016 แต่ก็ยังมีการพบ “เรือผี” หลายลำที่เต็มไปด้วยซากศพผู้เคราะห์ร้าย โดยในปีนี้พบมากถึง 18 ศพ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ชาวประมงเกาหลีเหนือต้องล่องเรือออกมามาไกลกว่าปกติเพื่อจับปลาให้ได้มากๆ ตามคำสั่งของรัฐบาล แต่เนื่องจากเรือของพวกเขาเป็นเพียงเรือไม้เก่าๆ ที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเพียงพอ เมื่อเครื่องยนต์เสียหรือน้ำมันหมดกลางทางจึงแทบไม่มีวิธีที่จะขอความช่วยเหลือ