รอยเตอร์ - พวกกบฏสังหารกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติอย่างน้อย 14 นาย และบาดเจ็บอีก 53 คนในคองโก ขณะที่อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นยอมรับในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) สถานการณ์การโจมตีที่เล็งเป้าหมายเล่นงานทหารจากแทนซาเนียกำลังอยู่ในขั้นเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ไม่นานมานี้
กูเตอร์เรส บอกว่า เหตุโจมตีในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เข้าองค์ประกอบของอาชญากรรมสงคราม และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่คองโกลงมือสืบสวนลากตัวผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างรวดเร็ว “ผมรู้สึกขุ่นเคืองและใจสลายอย่างที่สุดต่อเหตุโจมตีเมื่อคืนนี้” กูเตอร์เรสกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว ณ สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนิวยอร์ก
นอกจากผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว ยังมีสมาชิกกองกำลังรักษาสันติภาพอีก 3 นายสูญหาย หลังการต่อสู้ดุเดือดยาวนา 3 ชั่วโมง ที่ปะทุขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (7 ธ.ค.) จากการเปิดเผยของ เอียน ซินแคลร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการและวิกฤตของยูเอ็น
กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในพื้นที่ภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (MONUSCO) เปิดเผยว่าพวกผู้ต้องสงสัยนักรบจากกลุ่มกองกำลังพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย (ADF) ลงมือโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งของ MONUSCO ในเมืองเซมูลิกี
ADF เป็นกลุ่มกบฏอิสลามิสต์ที่ข้ามพรมแดนมาจากยูกันดาและเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ MONUSCO เผยว่า กำลังประสานตอบโต้ร่วมกับกองทัพคองโก และกำลังอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากฐานทัพในเมืองเบนี จังหวัดนอร์ท กีวู พร้อมยอมรับว่ามีทหารคองโก 5 นาย เสียชีวิตในเหตุปะทะดังกล่าวด้วย
กลุ่มนักรบต่างๆ เข้าควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของคองโก ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรแร่มานานเกือบ 1 ทศวรรษครึ่งแล้ว หลังสงครามระหว่างปี 1998-2003 ยุติลงอย่างเป็นทางการ คร่าชีวิตมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนใหญ่ตายเพราะหิวโหยและโรคติดต่อ
พื้นที่แถบนี้ยังเคยเป็นฉากแห่งการฆ่าหมู่หลายต่อหลายครั้ง โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 รายจากเหตุซุ่มโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม
รัฐบาลและกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ กล่าวโทษความรุนแรงส่วนใหญ่ไปที่ ADF แต่ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นและนักวิเคราะห์อิสระบางส่วนมองว่านักรบกลุ่มอื่นๆ ก็มีส่วนเช่นกัน