เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ แถลงล่าสุดยืนยันเกาหลีเหนือพร้อมที่จะเปิดเจรจาทางตรงกับสหรัฐฯ ปัญหาวิกฤตนิวเคลียร์ และรับประกันความปลอดภัยเปียงยาง พร้อมชี้ได้แจ้งเรื่องให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯทราบระหว่างพบปะที่กรุงเวียนนาวันพฤหัสบดี (7 ธ.ค.) แล้ว ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งหน่วยงานทหารใหม่ใช้ชื่อ “หน่วยเด็ดหัวผู้นำ” เป้าหมายเพื่อลอบสังหารระดับผู้นำเกาหลีเหนือในกรณีที่เกิดสงครามใหม่ พบทุ่มเม็ดเงินถึง 340 ล้านวอน หรือ 310,000 ดอลลาร์ แถมมีของเล่นครบ ทั้งโดรนปฏิบัติการฆ่าตัวตาย โดรนสอดแนม เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ ให้รบพิเศษใช้สอย
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการตอบออกมาทันทีจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน แต่ทว่าเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องแสดงให้เห็นอย่างจริงจังถึงการยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเองก่อนที่การเจรจาจะเริ่มต้น
ทั้งนี้ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยถึงข้อเสนอในวันเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติ เจฟฟรี เฟลต์แมน (Jeffrey Feltman) พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ รี-ยองโฮ ที่กรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นการเดินทางของเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติไปยังเกาหลีเหนือในรอบ 6 ปี
ทั้งนี้ พบว่าเฟลต์แมนเป็นชาวอเมริกันและเป็นอดีตนักการทูตสหรัฐฯ แต่ทว่าทางการะทรวงต่างประเทศสหรัฐฯยืนยันว่า เฟลต์แมนไม่ได้เดินทางเข้าเกาหลีเพื่อนำสารจากวอชิงตันไปส่งให้เปียงยาง
ลาฟรอฟประกาศในระหว่างการประชุมนานาชาติที่กรุงเวียนนา จากการรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ว่า “เราทราบดีว่าเหนืออื่นใดทั้งหมด เกาหลีเหนือต้องการเจรจากับสหรัฐฯเกี่ยวข้องกับการรับประกันความปลอดภัยของเกาหลีเหนือ ซึ่งเราพร้อมที่จะสนับสนุน ทางเราพร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อให้การเจรจานี้เกิดขึน”
และในการแถลงลาฟรอฟกล่าวต่อว่า “เพื่อนชาวอเมริกันของเรา (รวมไปถึงเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน) ต่างรับทราบในเรื่องนี้”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้กล่าวในที่ประชุมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ แสดงความกังวลถึง ภัยจากการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว ที่เรียกว่า ปฎิบัติการโจมตีเพื่อเด็ดหัว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลอบสังหารบรรดาผู้นำเกาหลีเหนือ และทำให้ระบบควบคุมและการบัญชาการกองทัพเป็นอัมพาตก่อนที่ทางเปียงยางจะสามารถตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธอออกไปได้
นอกจากนี้รัฐบาลเปียงยางยังปฎิเสธที่จะให้ประเด็นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองอยู่บนโต๊ะเจรจา รวมไปถึงยังต้องการให้สหรัฐฯยอมรับอย่างเป็นทางการว่า เกาหลีเหนือเป็นชาติมหาอำนาจทางนิวเคลียร์ และให้ยกเลิกนโยบายการเป็นปฎิปักษ์กับเกาหลีเหนือ รวมไปถึงการยกเลิกการคว่ำบาตร และยกเลิกปฎิบัติการทางทหารรอบคาบสมุทรเกาหลี
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกมาแสดงความเห็นต่อลาฟรอฟในวันพฤหัสบดี(7) โดยฮีทเธอร์ นอยเอิร์ตกล่าวว่า “การเจรจาโดยตรงกับเกาหลีเหนือในขณะนี้ยังไม่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ จนกว่าพวกเขาจะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์เสียก่อน”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ถึงแม้จะมีการตอบอออกมาอย่างแข็งกร้าวจากสหรัฐฯ แต่พบว่าภายในปีนี้ ทั้งเกาหลีเหนือและสหรัฐฯมีการหารือแบบไม่เป็นทางการเกิดขึ้น รวมไปถึง โจเซฟ ยุน (Joseph Yun) ตัวแทนพิเศษจากสหรัฐฯด้านนโยบายเกาหลีเหนือ ซึ่งการติดต่อเหล่านั้นถูกเรียกในชื่อ “ช่องทางการติดต่อ นิวยอร์ก” (New York channel) และถูกปิดลงโดยเกาหลีเหนือหลังจากมีการให้ความเห็นเชิงข่มขู่ออกมาจากปากผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงการประชุมองค์การสหประชาชาติครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงกันยายนที่ผ่านมา
เดอะการ์เดียนชี้ต่อว่า แต่ดูเหมือนสัญญาณล่าสุดบ่งชี้ว่า ทางเกาหลีเหนือสนใจที่จะกลับมาเปิดช่องทางการติดต่ออีกครั้ง
ทั้งนี้ ในการประชุมในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนล่าสุดที่กรุงสตอกโฮล์ม ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากโลกตะวันตก และเจ้าหน้าที่จากกรุงเปียงยางเข้าร่วม ซึ่งสื่ออังกฤษกล่าวว่า ดูเหมือนเป็นครั้งแรกที่ทางฝั่งเกาหลีเหนือจะแสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ถึงช่องทางการติดต่อระหว่างกองทัพสู่กองทัพกับสหรัฐฯ
ด้าน RT รายงานวันนี้(8)ว่า กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ประกาศในวันพุธ (6) ถึงการตั้งหน่วยงานพิเศษที่มีการใช้งบไปถึง 340 ล้านวอน หรือ 310,000 ดอลลาร์ โดยสื่อเกาหลีใต้อ้างจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 340 ล้านวอนที่ว่านี้เป็นแค่เศษเสี้ยวที่ทางกระทรวงได้รับจากงบประจำปีในตัวเลขเกือบ 40 พันล้านดอลลาร์สำหรับงบปี 2018 RT รายงาน
“เงินที่ได้รับจะถูกนำไปซื้อยุทโธปกรณ์สำหรับหน่วยรบพิเศษ... ซึ่งยุทโธปกรณ์ที่ว่าจะร่วมไปถึง อากาศยานโดรนสำหรับปฏิบัติการฆ่าตัวตาย โดรนสอดแนม และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (grenade machine gun)” แหล่งข่าวกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ให้ข้อมูลกับโคเรีย เฮอรัลด์ ในขณะที่แหล่งข่าวอีกรายเปิดเผยกับสำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้ว่า “งบประมาณที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการสั่งซื้อยุทโธปกรณ์พิเศษ เป็นต้นว่า ปืนกึ่งอัตโนมัติ และโดรนสำหรับปฏิบัติการพิเศษ”
ทั้งนี้ พบว่าหน่วยงานเด็ดหัวผู้นำถูกจัดตั้งโดยกองทัพเกาหลีใต้ภายใต้กองบัญชาการบสงครามพิเศษ (Special Warfare Command)เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทีมที่จะมาสังกัดจะ เป็นนายทหารที่ได้รับการฝึกการรบพิเศษราว 1,000 นายจะเข้าประจำการ ซึ่งพบว่าเป็นการเลียนแบบมาจากกองกำลังรบพิเศษสหรัฐฯหน่วยต่างๆ ได้แก่ หน่วยทหารเรนเจอร์ หน่วยทหารเดลต้า ฟอร์ซ หน่วยซีล ทีมที่ 6 และหน่วยรบพิเศษกรีนเบอเรต์ เป็นต้น
สื่อรัสเซียชี้ว่า ถึงแม้ชื่อหน่วนใหม่จะสามารถทำให้โยงไปถึงภาพการลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ทว่า RT ชี้ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเพราะ แหล่งข่าวได้เปิดเผยกับโคเรีย ไทม์สว่า ทางหน่วยมีหน้าที่จัดการแกนนำคนสำคัญของรัฐบาลเกาหลีเหนือ หรือการออกปฎิบัติการโจมตีไปยังจุดที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่นที่ศูนย์นิวเคลียร์ หรือศูนย์มิสไซล์ของเกาหลีเหนือ เป็นต้น
