โสมแดงฮึ่มพฤติกรรมยั่วยุของมะกัน การันตีสงครามนิวเคลียร์ระเบิดแน่ๆ

เอเจนซีส์ - โสมแดงลั่น สงครามนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดแน่นอนเพียงแต่จะเกิดเมื่อใดเท่านั้น จากการที่อเมริกาและเกาหลีใต้ยังขนอาวุธสุดไฮเทคมาซ้อมรบกันปาวๆ แถมเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กระหายสงครามในวอชิงตันยังขยันแสดงความคิดเห็นยั่วยุอย่างไม่เกรงใจ

ตามสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการโสมแดง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุในคำแถลงเมื่อคืนวันพุธ (6 ธ.ค.) ว่า การซ้อมรบในลักษณะเตรียมทำสงครามนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ หลายครั้งหลายหนทำให้เกิดสถานการณ์วิกฤตบนคาบสมุทรเกาหลี มิหนำซ้ำนักการเมืองระดับสูงของอเมริกายังขยันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสงคราม และท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ สงครามนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีกำลังจะกลายเป็นความจริง ติดอยู่เพียงคำถามเดียวคือเมื่อใดเท่านั้น

คำแถลงกล่าวเพิ่มเติมว่า เปียงยางไม่ได้ต้องการสงคราม แต่ก็ไม่คิดหลบหนี และหากอเมริกาคำนวณความอดทนของเกาหลีเหนือผิดและจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือจะทำให้อเมริกาต้องจ่ายราคาแพงด้วยอาวุธนิวเคลียร์ทรงพลังอย่างแน่นอน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เกาหลีเหนือพาดพิงถึงนั้นรวมถึงไมค์ ปอมปิโอ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ที่แสดงความคิดเห็นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2) ว่าหน่วยงานด้านข่าวกรองหลายแห่งของสหรัฐฯ เชื่อว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือคงไม่สำเหนียกว่าสถานการณ์ที่ตนเองก่อขึ้นนั้น ไม่ได้สลักสำคัญอะไรทั้งภายในประเทศและทั่วโลก ซึ่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศโสมแดงตำหนิว่า ปอมปิโอกำลังยั่วยุเกาหลีเหนือด้วยการวิจารณ์อย่างไม่ยำเกรงต่อผู้นำสูงสุดที่อยู่ในหัวใจประชาชนเกาหลีเหนือ

คำแถลงของเปียงยางยังชี้ว่า การแสดงความคิดเห็นของพวกกระหายสงครามในอเมริกาตีความได้อย่างเดียวคือ เป็นการเตือนให้เกาหลีเหนือเตรียมพร้อมรับสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี

ความคิดเห็นเช่นนี้ของเกาหลีเหนือ จัดว่าสอดคล้องกับมุมมองของเอช.อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวที่กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามกับเกาหลีเหนือ “เพิ่มขึ้นทุกวัน” ขณะที่ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกชื่อดังของรีพับลิกัน เรียกร้องเพนตากอนให้เริ่มอพยพสมาชิกครอบครัวทหารอเมริกันออกจากเกาหลีใต้ เนื่องจากความขัดแย้งกับเปียงยางใกล้ระเบิดทุกขณะ

คำแถลงล่าสุดทางการเกาหลีเหนือนี้ ออกมาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วกว่าเสียง รุ่น บี-1บี บินจากฐานทัพในเกาะกวม มายังเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อมซึ่งมีการสมมุติสถานการณ์จำลองเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหารภาคพื้นดิน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกาและเกาหลีใต้ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันจันทร์ (4) และจะสิ้นสุดในวันศุกร์ (8) ซึ่งมีอากาศยานเข้าร่วมกว่า 200 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ เอฟ-22 และเอฟ-35 ซึ่งมีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์

ด้านกองทัพเกาหลีใต้ออกคำแถลงระบุว่า การซ้อมรบนี้เปิดโอกาสให้กองทัพอากาศเกาหลีใต้และอเมริกาได้แสดงเจตนารมณ์และศักยภาพที่แข็งแกร่งในการลงโทษหากเกาหลีเหนือคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

การส่งบี-1บีโฉบบนน่านฟ้าเกาหลีใต้กลายเป็นสัญลักษณ์ชัดเจนขึ้นในการแสดงพลังให้เปียงยางประจักษ์ หลังจากที่โสมแดงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป 3 ครั้ง และใกล้ที่จะผลิตหัวรบนิวเคลียร์ที่โจมตีเป้าหมายใดๆ ก็ตามในแผ่นดินใหญ่อเมริกาสำเร็จ

เปียงยางนั้นเกลียดชังการซ้อมรบระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้ และมักประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า เป็นการซ้อมรุกรานตน ประเด็นที่อ่อนไหวกว่านั้นคือ เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี มักถูกพาดพิงว่า เป็นเครื่องบิน “ยุทธศาสตร์นิวเคลียร์” ถึงแม้เปลี่ยนมาติดตั้งอาวุธปกติธรรมดาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990 แล้วก็ตาม