รอยเตอร์ - ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศที่ 26 ของโลกที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานระหว่างบุคคลเพศเดียวกันในวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยบรรดา ส.ส. ในรัฐสภาต่างโอบกอดและร้องเพลงเฉลิมฉลอง “วันแห่งความรัก” กันอย่างครึกครื้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพียง 20 ปี บางรัฐของแดนจิงโจ้ยังถือว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มอนุรักษนิยมซึ่งเรียกร้อง “เสรีภาพทางศาสนา” สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับค่านิยมรักร่วมเพศ แต่ท้ายที่สุดกฎหมายสมรสเพศเดียวกันก็ได้ไฟเขียวจากสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีสมาชิก 150 คน โดยมีผู้โหวตคัดค้านเพียง 4 คน
“ช่างเป็นวันอะไรเช่นนี้ มันคือวันแห่งความรัก ความเท่าเทียม และการเคารพซึ่งกันและกันจริงๆ ออสเตรเลียทำสำเร็จแล้ว” นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ กล่าว “ถึงเวลาที่ผู้คนจะแต่งงานกันมากขึ้นแล้วสินะ”
กฎหมายสมรสเพศเดียวกันซึ่งรับรองพิธีแต่งงานในต่างประเทศด้วยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. แต่เนื่องจากกฎหมายออสเตรเลียกำหนดให้คู่รักต้องทำเรื่องขอสมรสล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน พิธีแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันจึงจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป
สำนักงานสถิติออสเตรเลียเผยผลสำรวจอย่างเป็นทางการซึ่งพบว่า ชาวออสเตรเลียเกินครึ่งเห็นด้วยกับการสมรสระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน
ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบร้อยละ 80 หรือราว 12.7 ล้านคนได้ร่วมตอบแบบสอบถามทางไปรษณีย์ โดยพบว่าร้อยละ 62 “เห็นด้วย” กับการแก้ไขกฎหมายให้คนเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ขณะที่ร้อยละ 38.4 “ไม่เห็นด้วย”
ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อเดือนที่แล้ว และเป็นที่คาดหมายว่าจะได้ไฟเขียวจากสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (7) เนื่องจากรัฐบาลผสมลิเบอรัล-เนชันแนลของ เทิร์นบูลล์ และพรรคแรงงานฝ่ายค้านเคยประกาศไว้แล้วว่า จะดันร่างกฎหมายสมรสเพศเดียวกันให้สำเร็จลุล่วงภายในวันที่ 7 ธ.ค.
องค์กรศาสนาและนักการเมืองสายอนุรักษนิยมได้พยายามคัดค้านร่างกฎหมายนี้ และขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ไม่เห็นด้วยมีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะให้บริการแก่คู่สมรสเพศเดียวกัน เช่น ร้านจัดดอกไม้ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เป็นต้น