xs
xsm
sm
md
lg

บันทึกคำสั่ง “จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ” เผยพระองค์ไม่ได้ทรงยับยั้งการตัดสินใจก่อสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะของญี่ปุ่นไม่ได้ทรงยับยั้งการตัดสินใจของที่ปรึกษาของพระองค์ที่จะประกาศสงครามกับสหรัฐฯ ในปี 1940 เนื่องจากพระองค์ทรงกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งภายในที่จะทำลายประเทศของพระองค์ พระองค์ทรงระบุในบันทึกคำสั่งต่อที่ปรึกษา

เอกสารลายมือที่จะถูกประมูลในนิวยอร์กในวันนี้ (6 ธ.ค.) เผยให้เห็นบทบาทของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากมันบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1920 เอาไว้ เช่น การที่สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงตัดสินพระทัยไม่คัดค้านการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงไม่เห็นด้วย

“พระองค์ทรงตระหนักว่าหากพระองค์ประสงค์ที่จะอยู่ในอำนาจ พระองค์ต้องทรงทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ” ทอม แลมบ์ ผู้อำนวยการฝ่ายหนังสือและต้นฉบับตัวเขียนของบริษัทประมูลบอนแฮมส์ (Bonhams) บอกกับรอยเตอร์

“และนั่นคือความจริงที่น่าสนใจ เนื่องจากตลอดช่วงปลายทศวรรษ 1930 และตลอดช่วงทศวรรษ 1940 การตัดสินใจทางทหารที่เกิดขึ้น พระองค์ทรงไม่สามารถคัดค้านได้” เขากล่าว

บริษัทประมูลตั้งราคาประเมินเอกสารลายมือนี้ไว้ที่ 100,000-150,000 ดอลลาร์ (ราว 3.2-4.8 ล้านบาท) โดยมันประกอบด้วยสมุดผูกเชือกสีน้ำตาล 2 เล่มซึ่งเขียนด้วยดินสอและปากกาโดย เทราซากิ ฮเดะนาริ ล่ามและที่ปรึกษาของสมเด็จพระจักรพรรดิในปี 1946

บันทึกนี้ลงท้ายด้วยถ้อยแถลงของพระจักรพรรดิที่ว่า หากพระองค์ทรงยับยั้งการตัดสินใจทำสงคราม มันส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองที่จะเลวร้ายยิ่งกว่า และ “ญี่ปุ่นจะถูกทำลาย” บริษัทประมูลระบุในเว็บไซต์

ความคิดเห็นดังกล่าวที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า “โดคุฮะคุโระคุ” หรือ “The Emperor's Monologue” (บทพูดเดี่ยวของพระจักรพรรดิ) อาจทำให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งถึงบทบาทที่พระจักรพรรดิทรงมีในการทำสงครามครั้งนั้น

นี่เป็นหัวข้อที่นักวิชาการระบุว่าไม่เคยได้ข้อสรุปอย่างสมบูรณ์ในญี่ปุ่น สาเหตุหลักเนื่องจากการตัดสินใจของฝ่ายจัดการการยึดครองของสหรัฐฯที่จะคงพระจักรพรรดิไว้ในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศประชาธิปไตยแห่งใหม่

“อเมริกันต้องการให้สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะยึดประเทศนี้เข้าด้วยกันซึ่งพระองค์ทรงทำได้” แลมบ์ กล่าว

“ญี่ปุ่นทั้งประเทศเปลี่ยนจากมหาอำนาจทางทหารก่อนสงครามกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลังสงคราม และชัดเจนว่าพระจักรพรรดิทรงมีส่วนในเรื่องนั้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น