เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่มอลตาออกแถลงความสำเร็จ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 10 ราย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคดีรถยนต์ของนักข่าวสาวชาวมอลตา ดาฟนี คารูอานา กาลิเซีย (Daphne Caruana Galizia) วัย 53 ปี เกิดระเบิดในช่วงตุลาคมที่ผ่านมาระหว่างที่เธอกำลังขับรถใกล้บ้านพักของตัวเอง เชื่อเป็นการลอบสังหาร เกิดขึ้นหลังโปรเจกต์ปานามาเปเปอร์ดังเป็นข่าวไปทั่วโลก
DW สื่อเยอรมนีรายงานเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีมอลตา โจเซฟ มัสแคต ออกมาแถลงด้วยตัวเองในวันจันทร์ (4) ถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหารนักข่าวสาวที่ขุดค้ยปานามาเปเปอร์ว่า ล่าสุดกองทัพและตำรวจมอลตาสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 10 คนไว้ได้ ที่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดี ดาฟนี คารูอานา กาลิเซีย (Daphne Caruana Galizia) ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำหรับมัสแคตพบว่า เขาและคนใกล้ชิดตกเป็นเหยื่อคมปากกาของกาลิเซียด้วยเช่นกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอลตาชี้ว่า ความสำเร็จของการจับกุมเกิดมาจากการสอบสวนที่กินระยะเวลาร่วมสัปดาห์
การเสียชีวิตของนักข่าวปานาเปเปอร์ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศ โดยคนส่วนใหญ่กล่าวหารัฐบาลมอลตาว่า ไม่พยายามมากพอในการตามจับกุมคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังการระเบิดรถของเธอ
DW ชี้ว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมนั้น พบว่าทั้งหมดมีสัญชาติมอลตา ส่วนใหญ่มีประวัติอาชญากรติดตัว อ้างอิงจากมัสแคต และในเวลานี้เจ้าหน้าทีมีเวลาแค่ 48 ช.มที่จะต้องตั้งข้อหากับคนทั้ง 10
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องสงสัย 8 คนจากทั้งหมด 10 คนถูกควบคุมตัวไว้ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าในปฎิบัติการเข้าบุกค้น 3 จุดพร้อมกันทั่วประเทศ ปฏิบัติการที่ว่าเป็นการผสานกำลังระหว่างตำรวจและทหารมอลตา ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งแรกของคดีที่เห็นได้ชัดอย่างเป็นรูปธรรมนับตั้งแต่ถูกลอบสังหาร
โดย 3 จุดที่ว่าได้แก่ ที่มาร์ซา (Marsa) ซึ่งเป็นสถานที่รถยนต์ของกาลิเซียเกิดระเบิดขึ้น ส่วนจุดที่ 2 คือเมืองเซนต์ พอลส์ เบย์ (St Paul’s Bay) ทางตอนเหนือ และจุดสุดท้าย คือ ย่านท่าเรือไลเตอร์ส วาร์ฟ (Lighters Wharf) ของมาร์ซา
ด้านครอบครัวของนักข่าวสาวออกมาให้ความเห็นกับเดอะการ์เดียนว่า ทางครอบครัวไม่ได้รับทราบถึงการจับกุม แต่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์แค่ครั้งเดียวจากเจ้าหน้าที่ และมีรายงานว่า ทางครอบครัวของนักข่าวสาวได้ยื่นฟ้องต่อสำนักงานตำรวจมอลตา โดยชี้ว่า การสอบสวนทางคดีไม่สามารถลำเอียงหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ โดยต้องการให้ถอดรองผู้บัญชาการตำรวจ ซิลวิโอ วาลเล็ตตา (Silvio Valletta) ออกจากทีมสอบสวนคดีนี้
ทางครอบครัวของกาลิเซียกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการสอบสวนของทางตำรวจให้ความสนใจแต่ผลจากนิติวิทยาศาสตร์ แต่เพิกเฉยต่อธุรกรรมการเงินที่อาจนำไปสู่หลักฐานสำคัญ
และทางครอบครัวยังเชื่อว่า การลอบสังหารดาฟนี คารูอานา กาลิเซีย เป็นเพราะเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักข่าวเป้าหมายที่รายงานการคอร์รัปชัน ผลประโยชน์ทับซ้อน ของบรรดานักการเมืองและบุคคลใกล้ชิด
