xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญพิษวิทยาเผย “คิม จองนัม” พกหลอด “ยาต้านพิษ” ติดตัวขณะถูกลอบสังหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คิม จอง นัม บุตรชายคนโตของอดีตผู้นำ คิม จอง อิล แห่งเกาหลีเหนือ ขณะเดินลงจากรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ เมื่อปี 2001 (แฟ้มภาพ)
เอเจนซีส์ - ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาเผย คิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ พก “ยาต้านพิษ” ติดตัวขณะถูกคนร้ายลอบสังหารที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์เมื่อต้นปีนี้

ฮิชาม อับดุลเลาะห์ ทนายฝ่ายจำเลย เผยต่อผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ศาลสูงมาเลเซียได้รับแจ้งเมื่อวันพุธ (29 พ.ย.) ว่า คิม จองนัม พกสารอะโทรปีน (atropine) ซึ่งมีสรรพคุณต้านพิษจำนวน 12 โดสเอาไว้ในกระเป๋าสะพาย ตอนที่เขาถูกหญิง 2 คนใช้สารวีเอ็กซ์ป้ายเข้าที่ใบหน้า ขณะกำลังรอขึ้นเครื่องบินจากเมืองหลวงมาเลเซียไปยังมาเก๊าเมื่อวันที่ 13 ก.พ.

เค. ชาร์มิลาห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาของรัฐบาลมาเลเซีย ได้เปิดเผยข้อมูลนี้ต่อศาลสูง หลังจากที่เธอได้ตรวจสอบตัวยาดังกล่าวและตัวอย่างสารอีกหลายชนิดที่ทางตำรวจให้มา

สมาคมเภสัชกรรมของสหรัฐอเมริกา (American Society of Health-System Pharmacists - ASHP) ระบุว่า อะโทรปีน “สามารถใช้ต้านพิษของสารเคมีทำลายระบบประสาท รวมถึงยาฆ่าแมลงได้ในเบื้องต้น”

ไนอัล วีท อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ให้ความเห็นว่า “หากคุณรู้ว่าใครสักคนกำลังวางแผนใช้สารพิษทำลายประสาทฆ่าคุณ อะโทรปีนจะเป็นสารสำคัญที่คุณอยากพกติดตัว”

นอกจากยาต้านพิษแล้ว คิม จอง นัม ยังมีเงินสดติดตัวถึง 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า ซีตี ไอชาห์ หญิงชาวอินโดนีเซียวัย 25 ปี และ ด่วน ถิเฮือง หญิงชาวเวียดนามวัย 29 ปี ได้เดินเข้าหาผู้ตายทางด้านหลัง และใช้มือละเลงสารพิษเข้าที่ใบหน้าของเขา

เจ้าหน้าที่มาเลเซียเชื่อว่าหญิงทั้งสองถูกสายลับเกาหลีเหนือฝึกมาเป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่ยังปฏิเสธข้อหาเจตนาฆ่า คิม โดยอ้างว่าถูกหลอกให้เชื่อว่ากำลังถ่ายรายการอำกันเล่น

การพบยาต้านพิษในกระเป๋าของ คิม จองนัม ได้เพิ่มปมปริศนาใหม่ให้กับคดีลอบสังหารซึ่งเป็นที่สนใจทั่วโลก และเจ้าหน้าที่ก็ยังตอบไม่ได้ว่า เหตุใด คิม จึงไม่พยายามใช้ยาต้านพิษที่มีอยู่ช่วยเหลือตัวเอง

หลังรู้ตัวว่าถูกลอบทำร้าย คิม ได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานต้อนรับที่อาคารผู้โดยสารขาออก ซึ่งพาเขาไปส่งคลินิกสนามบิน

แพทย์ผู้รักษา คิม ให้การต่อศาลว่า พยาบาลได้เช็ด “ของเหลวไร้กลิ่นที่คล้ายกับน้ำ” ออกจากใบหน้าคิม และพบว่าความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงถึงระดับอันตราย ต่อจากนั้น คิม ก็เริ่มมีอาการชัก และเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น